ประสบความสำเร็จในชีวิตด้วย Marshmallow Test
ประสบความสำเร็จด้วย Marshmallow Test
มีการทดลองนึงที่มหาวิทยาลัย Stanford ได้จัดขึ้นมาเพื่อวัดว่า ความสามารถในการควบคุมตัวเองและ ความอดทน จะมีผลต่อความสำเร็จในชีวิตมากน้อยแค่ไหน พออ่านดูแล้วก็สามารถนำมาเป็นข้อคิดที่ดีได้ จึงอยากนำมาแชร์กันใน #สาระเบาๆเสาร์อาทิตย์ ครับ
-----------------------------
Marshmallow Test คืออะไร ?
การทดลองนี้เกิดขึ้นเมื่อ 50 ปีที่แล้วที่มหาวิทยาลัยแสตนฟอร์ด โดยผู้ทดลองได้นำเด็กเล็กชั้นอนุบาลทดสอบความอดทน โดยได้ให้ขนม Marshmellow ซึ่งเป็นขนมหวานของโปรดเด็กๆในวัยนี้ไว้คนละชิ้น และบอกว่า ตอนนี้ทุกๆคนสามารถทานขนมที่ตัวเองชอบนี้ได้เลย แต่ถ้าใครรอได้และไม่กินขนมในมือนี้ อีก 20 นาที เด็กคนนั้นจะได้ขนมเพิ่มอีกหนึ่งชิ้น !
ผลของการทดลองก็เป็นไปตามคาดครับ เด็กส่วนใหญ่ก็กินขนม Marshmellow ในมืออย่างเอร็ดอร่อยอย่างไม่รีรอ 55 (มาล่อซะขนาดนี้ใครจะทนไหว) มีเพียงเด็กจำนวนน้อยเท่านั้นที่ยังยอมรอได้ ด้วยความอดทนอดกลั่น (อย่างน่าสงสาร 55) และพวกเค้าก็ได้รางวัลเป็นขนมอีกชิ้นกลับบ้านไป !
หลังการทดลองจบลง ผู้วิจัยก็ได้ติดตามชีวิตของเด็กๆทั้งสองกลุ่มนี้ และพบว่ากลุ่มเด็กๆที่สามารถอดทนรอและไม่กินขนม ได้โตขึ้นมามีชีวิตที่ประสบความสำเร็จกว่า ไม่ว่าจะเป็นชีวิตการเรียน การทำงาน หรือชีวิตครอบครัว ซึ่งโดยเฉลี่ยทุกคนจะทำให้ดีกว่ากลุ่มเด็กที่ทานขนมไปทันทีโดยไม่รีรอ
ทำให้นักวิจัยจึงสรุปผลทดลองว่า ความสามารถในการอดกลั้นต่อสิ่งที่ยั่วเย้า สิ่งที่ชอบ หรือการทำอะไรตามเพียงความพึงพอใจ จะมีผลต่อความสำเร็จของชีวิตคนเราในอาชีพการเรียนการทำงาน และความอดทนและนิสัยต่างๆเหล่านี้ก็ควรต้องพัฒนาตั้งแต่วัยเด็ก เพือให้ติดตัวไปในอนาคต
-----------------------------
ทางเพจอยากเสริมมุมมองต่อเองอีกนิดว่า ในเด็กวัยเด็กที่เราไม่สามารถคิดถึงกระทบในการกระทำสิ่งต่างๆในระยะยาวได้นั้น ใช่ครับความอดทนจึงเป็นสิ่งสำคัญ แต่เมื่อเราโตมาแล้วสิ่งเหล่านี้มันอาจจะไม่ใช่แค่ความอดทน แต่กลับเป็นความสามารถในการประเมินผลกระทบและตัดสินใจเลือกทางของเราได้เอง
ผมมองว่ามันคือการ Trade off หรือการมองคุณค่า (Value) ของสิ่งที่เราจะเสียและแลกไปให้ออกมากกว่า ก่อนที่เราจะตัดสินใจแล้วเลือกทางนั้น หากเราเข้าใจมูลค่านี้ได้ มันก็จะทำให้การตัดสินใจของเรานั้นดีขึ้น
เหมือนกับสิ่งที่เด็กๆ โดนทดสอบ เด็กหลายๆคนอาจจะไม่เข้าใจว่า ขนม Marshmellow อีกชิ้นนั้น จะมีคุณค่าหรือจำเป็นต่อชีวิตแค่ไหน จึงไม่ได้สนใจที่จะอนทนรอมัน แต่ในฐานะผู้ใหญ่นั้นเราก็กำลังโดนทดสอบอยู่ตลอดเวลาอยู่เช่นกัน
ยกตัวอย่างเช่น พรุ่งนี้เราเห็นว่าอาจจะมีงาน Present ใหญ่ที่สำคัญที่เราต้องทำ แต่คืนนี้เพื่อนๆชวนไปเที่ยว #S2O เราไม่รู้เลยว่าจริงๆ โอกาสที่งานใหญ่เราจะเข้ามานั้นมี % มากน้อยแค่ไหน แต่ถ้าเราเลือกที่จะออกไปเที่ยวกินเหล้ากับเพื่อนนั้น มันก็จะลดโอกาสในความสำเร็จของงานเราในวันพรุ่งนี้ลงไปได้ แล้วงานใหญ่นี้ที่เราอาจจะพลาดไป มันมีคุณค่ากับเรามากน้อยแค่ไหน ? และสิ่งที่เราจะได้มากับการเที่ยวเพียงคืนนี้คืนเดียวมันมากพอที่จะนำมาแลกหรือ ? หากเราสามารถวัดค่าทั้งสองออกมาได้ เราก็จะตัดสินใจได้ดีขึ้นครับ
มันไม่ผิดหรอกครับว่าเราจะเลือกที่จะไปกับเพื่อนหรือไม่ เพียงแต่เราแค่ต้องใจสิ่งที่เรากำลังเลือกที่จะ Trade ออกไปครับ การตัดสินใจในชีวิตของเรานั้นจึงไม่ต่างกับการ Trade อยู่ตลอดเวลาครับ เพราะการเทรดนั้นเราต้องเข้าใจคุณค่า (Value) ของสิ่งที่เราจะซื้อและสิ่งที่เราจะนำไปแลกได้อย่างถูกต้องและครบถ้วน เราก็จะลงทุนได้กำไรในระยะยาว หรือเปรียบกับชีวิตของเราที่จะประสบความสำเร็จได้ด้วยการตัดสินใจที่ดีครับ
มีการทดลองนึงที่มหาวิทยาลัย Stanford ได้จัดขึ้นมาเพื่อวัดว่า ความสามารถในการควบคุมตัวเองและ ความอดทน จะมีผลต่อความสำเร็จในชีวิตมากน้อยแค่ไหน พออ่านดูแล้วก็สามารถนำมาเป็นข้อคิดที่ดีได้ จึงอยากนำมาแชร์กันใน #สาระเบาๆเสาร์อาทิตย์ ครับ
-----------------------------
Marshmallow Test คืออะไร ?
การทดลองนี้เกิดขึ้นเมื่อ 50 ปีที่แล้วที่มหาวิทยาลัยแสตนฟอร์ด โดยผู้ทดลองได้นำเด็กเล็กชั้นอนุบาลทดสอบความอดทน โดยได้ให้ขนม Marshmellow ซึ่งเป็นขนมหวานของโปรดเด็กๆในวัยนี้ไว้คนละชิ้น และบอกว่า ตอนนี้ทุกๆคนสามารถทานขนมที่ตัวเองชอบนี้ได้เลย แต่ถ้าใครรอได้และไม่กินขนมในมือนี้ อีก 20 นาที เด็กคนนั้นจะได้ขนมเพิ่มอีกหนึ่งชิ้น !
ผลของการทดลองก็เป็นไปตามคาดครับ เด็กส่วนใหญ่ก็กินขนม Marshmellow ในมืออย่างเอร็ดอร่อยอย่างไม่รีรอ 55 (มาล่อซะขนาดนี้ใครจะทนไหว) มีเพียงเด็กจำนวนน้อยเท่านั้นที่ยังยอมรอได้ ด้วยความอดทนอดกลั่น (อย่างน่าสงสาร 55) และพวกเค้าก็ได้รางวัลเป็นขนมอีกชิ้นกลับบ้านไป !
หลังการทดลองจบลง ผู้วิจัยก็ได้ติดตามชีวิตของเด็กๆทั้งสองกลุ่มนี้ และพบว่ากลุ่มเด็กๆที่สามารถอดทนรอและไม่กินขนม ได้โตขึ้นมามีชีวิตที่ประสบความสำเร็จกว่า ไม่ว่าจะเป็นชีวิตการเรียน การทำงาน หรือชีวิตครอบครัว ซึ่งโดยเฉลี่ยทุกคนจะทำให้ดีกว่ากลุ่มเด็กที่ทานขนมไปทันทีโดยไม่รีรอ
ทำให้นักวิจัยจึงสรุปผลทดลองว่า ความสามารถในการอดกลั้นต่อสิ่งที่ยั่วเย้า สิ่งที่ชอบ หรือการทำอะไรตามเพียงความพึงพอใจ จะมีผลต่อความสำเร็จของชีวิตคนเราในอาชีพการเรียนการทำงาน และความอดทนและนิสัยต่างๆเหล่านี้ก็ควรต้องพัฒนาตั้งแต่วัยเด็ก เพือให้ติดตัวไปในอนาคต
-----------------------------
ทางเพจอยากเสริมมุมมองต่อเองอีกนิดว่า ในเด็กวัยเด็กที่เราไม่สามารถคิดถึงกระทบในการกระทำสิ่งต่างๆในระยะยาวได้นั้น ใช่ครับความอดทนจึงเป็นสิ่งสำคัญ แต่เมื่อเราโตมาแล้วสิ่งเหล่านี้มันอาจจะไม่ใช่แค่ความอดทน แต่กลับเป็นความสามารถในการประเมินผลกระทบและตัดสินใจเลือกทางของเราได้เอง
ผมมองว่ามันคือการ Trade off หรือการมองคุณค่า (Value) ของสิ่งที่เราจะเสียและแลกไปให้ออกมากกว่า ก่อนที่เราจะตัดสินใจแล้วเลือกทางนั้น หากเราเข้าใจมูลค่านี้ได้ มันก็จะทำให้การตัดสินใจของเรานั้นดีขึ้น
เหมือนกับสิ่งที่เด็กๆ โดนทดสอบ เด็กหลายๆคนอาจจะไม่เข้าใจว่า ขนม Marshmellow อีกชิ้นนั้น จะมีคุณค่าหรือจำเป็นต่อชีวิตแค่ไหน จึงไม่ได้สนใจที่จะอนทนรอมัน แต่ในฐานะผู้ใหญ่นั้นเราก็กำลังโดนทดสอบอยู่ตลอดเวลาอยู่เช่นกัน
ยกตัวอย่างเช่น พรุ่งนี้เราเห็นว่าอาจจะมีงาน Present ใหญ่ที่สำคัญที่เราต้องทำ แต่คืนนี้เพื่อนๆชวนไปเที่ยว #S2O เราไม่รู้เลยว่าจริงๆ โอกาสที่งานใหญ่เราจะเข้ามานั้นมี % มากน้อยแค่ไหน แต่ถ้าเราเลือกที่จะออกไปเที่ยวกินเหล้ากับเพื่อนนั้น มันก็จะลดโอกาสในความสำเร็จของงานเราในวันพรุ่งนี้ลงไปได้ แล้วงานใหญ่นี้ที่เราอาจจะพลาดไป มันมีคุณค่ากับเรามากน้อยแค่ไหน ? และสิ่งที่เราจะได้มากับการเที่ยวเพียงคืนนี้คืนเดียวมันมากพอที่จะนำมาแลกหรือ ? หากเราสามารถวัดค่าทั้งสองออกมาได้ เราก็จะตัดสินใจได้ดีขึ้นครับ
มันไม่ผิดหรอกครับว่าเราจะเลือกที่จะไปกับเพื่อนหรือไม่ เพียงแต่เราแค่ต้องใจสิ่งที่เรากำลังเลือกที่จะ Trade ออกไปครับ การตัดสินใจในชีวิตของเรานั้นจึงไม่ต่างกับการ Trade อยู่ตลอดเวลาครับ เพราะการเทรดนั้นเราต้องเข้าใจคุณค่า (Value) ของสิ่งที่เราจะซื้อและสิ่งที่เราจะนำไปแลกได้อย่างถูกต้องและครบถ้วน เราก็จะลงทุนได้กำไรในระยะยาว หรือเปรียบกับชีวิตของเราที่จะประสบความสำเร็จได้ด้วยการตัดสินใจที่ดีครับ
Comments
Post a Comment