Posts

Showing posts from March, 2019

"รูปปั้นโอกาส"

Image
อีกเรื่องที่ผู้บริหารผมได้นำมาเล่าให้ฟังแล้วได้ข้อคิดที่ดีมาก คือเรื่องของ "รูปปั้นโอกาส" เลยนำมาแชร์ใน #สาระเบาๆเสาร์อาทิตย์ อีกเรื่องครับ ช่วงแรกๆ อ่านอาจจะยังไม่เข้าใจ แต่ต้องอ่านจนจบนะครับ มีข้อคิดดีๆแน่ครับ ที่เมืองหนึ่งของประเทศกรีก เคยมีรูปปั้นแกะสลักตั้งอยู่ใจกลางเมือง วันนึงมีชายคนนึงที่เดินผ่านมา และสงสัยในรูปลักษ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของรูปปั้นนี้ ที่ไม่เหมือนรูปปั้นอื่นๆที่เคยเห็นมา ชายคนนี้สงสัยจึงถามขึ้นมาว่า “รูปปั้นเอ๋ย ท่านชื่ออะไร ?” ชายคนที่เดินผ่านมาถาม / “ฉันชื่อโอกาส” รูปปั้นตอบ “ใครเป็นคนแกะสลักท่านขึ้นมา ?” / “ช่างแกะสลักชื่อ ลีซีปัส” “ทำไมท่านจึงยืนเขย่งเท้าล่ะ ?” / “เพื่อบ่งบอกว่าฉันพร้อมจะเดินไปแล้วนะ” “แล้วทำไมที่เท้าของท่านจึงมีปีกด้วย ? ” /  “เพื่อแสดงให้เห็นว่าเวลาฉันไป ฉันจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว” “แล้วทำไมผมด้านหน้าของท่านจึงยาวอย่างนี้” / “ก็เพื่อให้คนที่พบฉัน จะได้จับฉวยไว้ได้ง่าย” “อืม ... แล้วทำไมหัวด้านหลังของท่านจึงล้าน ไม่มีผมเลยแม้แต่เส้นเดียว” / “ก็เพื่อบอกว่า เมื่อฉันผ่านไปแล้ว ก็จะไม่มีที่ให้จะจับรั้งฉันได้” ชายคนนั้น
Image
ถ้าคุณยังไม่เข้าใจ Brexit ไม่ต้องตกใจนะครับ คนส่วนมากในอังกฤษที่ไปโวตก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน 55 คำที่ Google มากที่สุดในอังกฤษหลังวันโวตคือ “Brexit คืออะไร ?” เมื่อสามปีก่อน วันที่ 23 พค 2016 มีเสียงเรียกร้องจากชาวอังกฤษ (สหราชอาณาจักร) จำนวนมากว่าถึงเวลาแล้วที่สหราชอาณาจักรควรออกจากสหภาพยุโรป ! จนทำให้รัฐบาลต้องเปิดการออกเสียงเลือกตั้งเรื่องนี้ (Brexit vote) ว่าจะอยู่ต่อในหรือจะออกไป และคะแนนก็ผ่านเป็นมติว่า ชาวสหราชอาณาจักร ส่วนมากนั้นอยากออกจากสหภาพยุโรป แต่ ! ผ่านไปวันเดียวเท่านั้น วันที่ 24 พค 2016 ผลที่ Google Trend รายงานออกมาก็คือว่า คำถามที่คนสหราชอาณาจักร พยายามค้นหาใน Google มากที่สุดนั้นคือ “Brexit คืออะไร ?” ทั้งๆที่เพิ่งไปเลือกตั้งมาหยกๆ คำถามที่คนพิมพ์เข้าไปก็คือล้วนแต่จะพยายามหาคำตอบว่า Brexit คืออะไร โดยรายงานที่ออกมา เรียงตามจำนวนคำถามที่คนถามมากที่สุดคือ 1) การที่เราต้องออกจาก EU (สหภาพยุโรป) นั้นหมายความว่าอย่างไร ? เอ้า ?!?!? ยังไม่ทันรู้ผลกระทบของมันเลยแต่คนอังกฤษกลับไปโหวตให้ออกจากสหภาพยุโรปกันซะละ คงต้องไม่ชอบกลุ่ม EU มากๆเลยนะครับเนี่ย 2) กลุ่ม EU คืออะ
Image
วันก่อนผมได้ฟังผู้บริหารที่ทำงานมาสอนและแชร์มุมมองในการเป็นผู้บริหารที่ดี มีเรื่องๆนึงที่ผมฟังแล้วรู้สึกว่าน่าจะเป็นประโยชน์มาก เลยตั้งใจจดไว้และนำมาแชร์ใน #สาระเบาๆเสาร์อาทิตย์ ครับ เรื่องมีอยู่ว่า แม่ทัพนายหนึ่ง วันหนึ่งก่อนออกรบ ได้เดินทัพผ่านบ้านหลังหนึ่งที่แขวนป้ายหน้าบ้านว่า “ นักเล่นหมากล้อมอันดับหนึ่งของประเทศ” ด้วยความที่แม่ทัพเป็นผู้ที่ชอบในหมากล้อม จึงขอเข้าไปท้าดวลเจ้าของบ้าน ปรากฏว่าเจ้าบ้านพ่ายแพ้ไปถึง 3 ตา จนแม่ทัพพูดว่าสงสัยต้องปลดป้ายหน้าบ้านออกแล้ว วันรุ่งขึ้นแม่ทัพก็ไปออกรบ และครั้นชนะผ่านศึกสงครามมาได้ แม่ทัพก็กลับผ่านไปเจอบ้านหลังนี้อีกครั้ง ก็ยังคงเห็นป้าย “นักเล่นหมากล้อมอันดับหนึ่ง“ แขวนไว้ที่เดิม ทำให้ฉงนยิ่งนัก จึงเข้าไปท้าดวลใหม่ แต่คราวนี้แม่ทัพแข่งกี่ครั้งก็พ่ายแพ้ จึงให้สงสัยนัก เลยถามเจ้าบ้านว่าเพราะอะไร ทำไมจึงเอาชนะตนได้ ? เจ้าบ้านตอบว่า ครั้งก่อน รู้ข่าวว่าท่านแม่ทัพจะออกรบในวันรุ่งขึ้น หากหักหาญเอาชนะจะทำให้ท่านแม่ทัพหมดขวัญกำลังใจ แต่เมื่อแม่ทัพชนะศึกมาได้ ครั้งนี้จึงไม่ออมมือให้อีก ! นิทานสั้นนี้สอนอะไรเราบ้าง ความเป็นผู้รู้ที่แท้จริง
Image
สวัสดีครับ ช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์นี้ เพื่อนๆ เทรดเดอร์คงมีความรู้สึกเดียวกันนะครับ เป็นช่วงตลาดปิดให้เราได้พักผ่อน ไม่เครียดกับตลาด ได้ใช้เวลากับครอบครัวและคนที่เรารัก วันนี้ผมอยากจะมาขอแชร์เรื่องเบาๆ จากประสบการณ์เทรดของผม โดยได้ตั้งคำถาม 3 อย่างที่หวังว่าจะมาอธิบายการเทรดในตลาดโลกให้เพื่อนๆ ได้เข้าใจกันมากขึ้น 1) เวลาเราเทรดนั้น เราควรใช้สมอง มากน้อยแค่ไหน ? 2) การเทรดในตลาด กับการแทงบอล โอกาสแพ้ชนะเท่ากันใช่ไหม ? 3) Algorithm และ AI Trading อันไหนเหนือกว่ากัน ? ต้องขอเรียนว่าบทความอันนี้มาจากประสพการณ์ที่ผมเทรดและศึกษาตลาดน้ำมัน Future มากว่า 10 ปี ผมจึงเชื่อในข้อมูลเหล่านี้ หากใครไม่เห็นด้วยยังไงก็ต้องขออภัยไว้ตรงนี้นะครับ ผมหวังว่ามันจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆเทรดเดอร์ในตลาดอื่นๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นในตลาดใดก็ตามนะครับ  ลองแชร์ความเห็นกันเข้ามาได้เลยครับ  1) เวลาเราเทรดนั้น เราควรใช้สมอง มากน้อยแค่ไหน ? ก่อนอื่นต้องขออธิบายนะครับว่า ผมมองการเทรดออกเป็นสองขั้นตอนคือ 1) การเตรียมข้อมูล และศึกษาแผนในการเทรด กับ 2) เวลาในการเข้าเทรด หรือที่เราไปกดซื้อขายในหน้อจอ ในตลาด
Image
ทรัมป์ทวีตมีผลกับราคาน้ำมันมากน้อยแค่ไหน ? ทรัมป์สามารถสั่งโอเปกได้เลยหรือ ! เราลองมาวิเคราะห์กันครับ เมื่อคืนนี้ทรัมป์ได้ออกมาป่วนตลาดอีกแล้วครับ โดยการ Tweet ออกมาว่า หรือแปลได้ว่า “สำคัญมากที่โอเปกจะเพิ่มการผลิตน้ำมัน ราคาน้ำมันในตลาดโลกตอนนี้เปราะบางมากและราคาสูงเกินไปแล้ว !" อย่างที่ทราบกันนะครับ ว่าทรัมป์ได้ออกมาป่วนตลาดแบบนี้หลายๆครั้งแล้ว การออกมาทวีตในครั้งนี้ทำให้น้ำมันดิบ Brent ที่พยายามจะทะลุผ่านแนวต้านที่ 68.5 มาสองอาทิตย์แล้ว ต้องร่วงลงมาอย่างรวดเร็วครับ ลองมาวิเคราะห์เรื่องนี้กันครับ ทรัมป์ทวีตนั้นมีผลกับตลาดจริงๆหรือ ?? ดูได้จากกราฟในรูปเลยนะครับ ว่ามีผลมากๆ ทุกครั้งที่ทรัมป์ออกมาทวีต โดยส่วนมากทรัมป์จะออกมาทวีตเมื่อราคาน้ำมันกำลังขึ้นสูงและเค้าต้องคอยกันไว้ เพราะทรัมป์ไม่ต้องการให้ประชาชนชาอเมริกาต้องใช้น้ำมันที่แพงเกินไป แล้วจะเกิดความไม่พอใจและกลับมากระทบกบคะแนนเสียงในการเลือกตั้ง อย่างที่ทราบกันว่าคนอเมริกานั้นมีสัดส่วนประชากรที่ขับรถมากเกือบจะที่สุดในโลก เพราะฉะนั้นราคาน้ำมันถูกจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อคะแนนเสียงมาก หากทรัมป์ต้องการชนะการ

หมดยุด Bitcoin ถึงเวลายุค "หุ้นกัญชา"

Image
หมดยุด Bitcoin ถึงเวลายุค "หุ้นกัญชา" หากคุณกำลังมองหาตลาดหรือการลงทุนที่ก้าวกระโดดอย่างที่ Bitcoin เคยเป็น... ... "หุ้นกัญชา” อาจเป็นคำตอบใหม่สำหรับคุณ ปัจจุบันหลายประเทศทั่วโลกเริ่มเปลี่ยนแปลงกฎหมายอนุญาตให้ใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ได้ โดยเฉพาะที่แคนาดาและหลายรัฐในสหรัฐเป็นหลัก ทำหุ้นของบริษัทที่เกี่ยวกับกัญชานั้นราคาก้าวกระโดดมาก ยกตัวอย่างตามกราฟในรูป บริษัท Canopy Growth Corporation ที่จดทะเบียนในแคนาดาและหลายรัฐ นั้นได้โตขึ้นกว่า 50 เท่า หรือ 5000% ภายในเวลา 3 ปีที่ผ่านมา และด้วยเทรนด์ที่ทั่วโลกกำลังทบทวนกฎหมายเกี่ยวกับการใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ได้นี่ ก็อาจทำให้มูลค่า หุ้นกัญชา มีโอกาสโตขึ้นอีกมากมายหลายเท่าเลยทีเดียว ราคาหุ้น Canopy บริษัทกัญชาที่ใหญ่ที่สุดในโลก กัญชาไปใช้ทางการแพทย์ได้อย่างไร ? กัญชา มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Cannabis indica ถ้าหากใช้ในปริมาณที่เหมาะสม กัญชาก็ยังมีสรรพคุณในทางบวก เช่น เพื่อบำบัดรักษา บรรเทาอาการไอ อ่อนล้า และยังสามารถนำมาใช้บรรเทาอาหารหอบหืด เพราะมีคุณสมบัติที่ช่วยขยายหลอดลม ช่วยบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรน คลายเคร
อีกหนึ่งสัญญาณเตือนภัยว่า "วิกฤตเศรษฐกิจ" หรือ Recession กำลังอาจใกล้เข้ามา ก็คือเมื่อการคาดการณ์ GDP จากเซียนนักวิเคราะห์ทั้งหลายเริ่มมีความเห็นต่างกันไปในวงที่กว้างมากขึ้น และตอนนี้ระดับความแตกต่างของการมองเศรษฐกิจสหรัฐนั้น ต่างกันมากที่สุดในรอบ 7 ปี ! ตัวเลขโพลสำรวจของ Bloomberg นั้น เป็นที่รู้จักและยอมรับกันในหมู่นักลงทุนและเทรดเดอร์ครับ โดยทุกๆ เดือนทาง Bloomberg จะมีการจัดทำโพลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ระดับต้นๆของโลก จากทุกๆธนาคารหรือสถาบันเศรษฐกิจดังๆ กว่า 30-40 คน มาสอบถามหลายๆเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจ, GDP, ดอกเบี้ย หรือแม้แต่ราคาน้ำมัน และ สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐ ซึ่งผมนั้นจะคอยติดตามตลอด เมื่อวานนี้นั้นทาง Bloomberg ได้ออกโพลสำรวจ GDP สหรัฐในปีหน้าออกมา ปรากฏว่ามีนักวิเคราะห์เสียงแตกและมองภาพเศรษฐกิจต่างกันออกไปมากๆ โดยเฉลี่ยพวกเขาคาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 2.2% ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า แต่มีคนมองต่ำสุดอยู่ที่ -0.75% (ถึงเป็น Recession) และสูงสุดอยู่ที่ 3.25% ----------------------------------- ทำไมการที่นักวิเคราะห์มองต่างกันมากขึ้น ถึงเป็นสัญญาณเตือนภัย ? ในการท

ใครยัง งง กับเรื่อง Brexit ลองอ่านทางนี้ครับ

Image
ขออภัยที่ขัดจังหวะที่โพสต์การเมืองไทยกำลังเข้มข้นนะครับ แต่ขณะนี้สถานการณ์ที่อังกฤษก็เข้มค้นไม่แพ้กัน หลังจากที่เมื่อวานนี้ได้มีผู้คนออกมาเดินประท้วงต่อการออกจากสหภาพยุโรป ในกรุงลอนดอนกว่า 1 ล้านคน ! (ผมได้แนบคลิปการประท้วงไว้ในคอมเม้นนะครับ เห็นจำนวนคนแล้วคุณจะตกใจ) และล่าสุด ได้มีผู้คนลงนามประท้วง Online ไปมากกว่า 5 ล้านคนแล้ว !!! หลายๆ คนอาจจะยังงงว่า Brexit นั้นมันคืออะไร ได้ยินถึงมาหลายๆปีแล้ว ทำไมมันถึงวุ่นวายขนาดนี้ ? ส่วนตัวแล้วผมชอบคำอธิบายสั้นๆ จาก รัฐมนตรีฝรั่งเศส ท่านนึงนะครับที่กล่าวว่า "I named my cat 'Brexit' because he meows loudly to be let out but just stand there when I open the door" แปลให้ฟังตรงๆนะครับ ก็คือว่า "ดิฉันตั้งชื่อแมวของฉันว่า Brexit เพราะเค้าชอบร้องเมี้ยวๆเวลาอยากออกไปข้างนอก แต่พอฉันเปิดประตูให้ทีไรกลับไม่ยอมออกไปซักที" และนี่ก็เปรียบเสมือนกับการสรุปปัญหา Brexit นะครับ สรุปเรื่อง Brexit ที่ผ่านมา เมื่อปี 2016 เมือสามปีก่อนมีเสียงเรียกร้องจากชาวอังกฤษ (สหราชอาณาจักร) จำนวนมากว่าถึงเวลาแล้วที่สหราชอาณาจักรค

Safe Haven หากวิกฤตเศรษฐกิจกำลังใกล้เข้ามา เราควรลงทุนอย่างไรดี ?

Image
ขออนุญาติเขียนบทความที่เกียวกับตลาดการเงินและการลงทุนกันอีกซักโพสต์นะครับ หลังจากโพสต์ที่แล้วที่เขียนเกี่ยวกับเรื่อง Inverted Yield Curve ได้รับความสนใจค่อนข้างมาก ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามนะครับ หลังจากที่เขียนโพสต์ที่แล้วไปว่า บริษัทใหญ่ๆ หรือ กองทุนสหรัฐผู้มีความรู้ทางการเงินสูง ได้เริ่มเข้ามารัดเข็มขัดและ บริหารความเสี่ยงต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) ไว้แล้ว ก็มีหลายๆท่าน Inbox เข้ามาถามนะครับว่า 1) แล้วพวกเราล่ะ ? ถ้าหากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจขึ้นจริงๆ เราควรบริหารความเสี่ยงพอทลงทุนของเราอย่างไรได้บ้าง ? 2) หุ้นสหรัฐลงกระจายจากข่าว Inverted Curve นี้ แล้วเปิด ตลาดหุ้นต้นอาทิตย์หน้านั้น ตลาดบ้านเราจะเป็นอย่างไรบ้าง ? ข้อตอบข้อ 2 ก่อนเลยนะครับว่า ผลกระทบที่ใหญ่ที่สุดของตลาดหุ้นบ้านเราในวันจันทร์นั้น คงเป็นผลของการเลือกตั้งในวันนี้ เพราะฉะนั้นตลาดจะออกมาอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับพวกเราทุกๆคนที่ออกไปใช้เสียงของเราในวันนี้ครับ ทางด้านผลกระทบของตลาดการเงินสหรัฐนั้นคงจะตามมาในระยะยาวมากกว่า เราควรลงทุนอย่างไร หากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจขึ้นจริงๆ ? แน่นอนครับ หากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจขึ้น ราคาหุ้นก็จะโด

Inverted Yield Curve เข้าใจได้ง่ายๆ ที่นี่

เป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลกการเงินเมื่อคืนนี้ครับ หลังจากส่วนต่างของอัตราผลตอบแทนจากพันธบัตรระยะยาว (อายุ 10 ปี) และพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้น (อายุ 3 เดือน) ของสหรัฐกลับมาเป็นติดลบครั้งแรกในรอบ 12 ปี ! ส่งผลให้หุ้น Dow Jones ลบหนักกว่า 500 จุด และทำให้นักลงทุนต่างๆ ตั้งคำถามว่ามีอะไรที่เกิดขึ้นกับตลาดการเงินที่เรายังไม่รู้ ? แต่นักลงทุนใหญ่ๆ ของสหรัฐเค้ามองเห็นแล้ว ? ภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) กำลังเข้ามาใกล้แล้วจริงๆหรือ ? ทุกคนอาจจะได้ยินเรื่อง Inverted Yield Curve มาซักพักแล้ว เพราะว่าทางเราก็เคยได้เขียนไปก่อนหน้านี้ ในช่วงที่ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะ 3 ปี กับ 5 ปี ตัดกันเป็นลบครั้งแรกเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว แต่เหตุการณ์เมื่อคืนนี้นั้นรุนแรงกว่ามาก ! เนื่องจากเป็นส่วนต่างของระยะสั้นมากๆ (3 เดือน) กับระยะยาวมากๆ (10ปี) ที่กลับเป็นลบแล้ว ! ความน่ากลัวของสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นหมายความว่าอย่างไร ?? จะขอค่อยๆ อธิบายตั้งแต่เริ่มแรกคร่าวๆ อีกทีนะครับ ถ้ายาวไปลองอ่านสรุปด้านล่างได้นะครับ ------------------------------- ผลตอบแทนจากพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (Bond Yield) คืออะไร ? ทำไมผลตอบ

เข้าใจง่ายๆ - การปรับอัตตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐ กระทบต่อ น้ำมัน หุ้น และ เศรษฐกิจ อย่างไรบ้าง ?

Image
หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเมื่อปลายปีที่แล้ว ขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี ตลาดโลกก็เกิดความกังวลว่าจะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวหรือไม่ ? จะขึ้นต่ออีกครั้งในปีนี้ ? วันนี้จึงอยากจะมาคุยกันอย่างเข้าใจง่ายๆ ว่า การปรับอัตตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐนั้น กระทบต่อ น้ำมัน หุ้น และ เศรษฐกิจ อย่างไรบ้างครับ ? ดอกเบี้ยนโยบาย (Policy Rate) คืออะไร ? ทำไมถึงกระทบมาถึงประชาชนอย่างไร ? อัตราดอกเบี้ยนโยบาย กับ ดอกเบี้ยที่ธนาคารคิดกับลูกค้า นั้นต่างกันนะครับ ดอกเบี้ยนโยบาย เป็นเครื่องมือหลักของธนาคารกลางของแต่ละประเทศในการส่งสัญญาณนโยบายการเงิน เพื่อที่จะควบคุมปริมาณเงินในระบบ หรือเรียกง่ายๆว่าเป็นดอกเบี้ยต้นทุนของธนาคารและสถาบันการเงินต่างๆ อีกทีนึง เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่ ธนาคารต่างๆ มีเงินเหลือ ก็จะนำมาเงินนี้มาให้ธนาคารกลาง ที่รับกู้ด้วยอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ทำให้โดยปกติแล้ว เมื่อดอกเบี้ยนโยบายมีการปรับ ธนาคารก็จะปรับดอกเบี้ยทั้งเงินฝาก เงินกู้ ต่อไปสู่ประชาชน ไปในทิศทางเดียวกันด้วย การขึ้นและลง ดอกเบี้ยนโยบาย กระทบต่อเศรษฐกิจอย่างไร ? เมื่อเศรษฐกิจกำลังเติบโต ราค

เปิดโพยการใช้บัตรเครดิตให้คุ้มค่าที่สุด!!!

Image
เนื่องจากผมไปประจำการอยู่ต่างประเทศมาหลายปี ล่าสุดย้ายกลับมาอยู่ไทยถาวรเลยต้องเริ่มหาบัตรเครดิตที่จะได้ประโยชน์สูงสุด ผมเลยทำการศึกษาและทำออกมาเป็นโพย เผื่อจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆครับ แต่หากใครมีโพยที่ดีกว่า เจ๋งกว่า ก็รบกวนแชร์กลับมาให้ด้วยนะครับ 55 หลังจากทำการศึกษา (ในเวลาอันสั้น) ผมก็พบว่า มันไม่มีบัตรใดบัตรหนึ่งที่ดีที่สุด แต่มันจะต้องมีศิลปะในการใช้ ต้องมีการผสมผสาน จัดแบ่ง Category จึงเป็นเหตุให้ผมเลยต้องตั้ง Excel สร้างตารางมันขึ้นมาเลย แต่ขอทำแค่คร่าวๆ ก่อนนะครับ โดยเป้าหมายการเลือกใช้บัตรของผมคือ "เราจะไม่ยอมจ่ายค่าธรรมเนียม" "ผลประโยชน์สูงสุดใน Category นั้นๆ" และ "เหมาะกับ Lifestyle ของแอดเอง" โดย หลังจากผมนั่งคำนวณดูแล้ว ยังไง การได้ไมล์ ROP ถือว่าคุ้มกว่า Cash back เพราะ ปัจจุบันบัตรเครดิตที่ให้ Cashback สูงสุดยังคงอยู่ที่ 1% ซึ่งยังถือว่าน้อยอยู่ จะมีแค่เพียงบาง Category เท่านั้น ที่ให้คืนสูงหน่อย ดังนั้นผมขอ สรุปให้ดูในตารางเป็นทั้ง 2 กลุ่ม นะครับ  1) บัตรเครดิตเพื่อการสะสม ROP และ 2) บัตรเครดิตเพื่อรับเงินคืนและส่วนลด  เพราะบางคน

สรุปตลาดน้ำมันโลก ประจำอาทิตย์ที่ 11 – 15 มีนาคม

Image
เป็นอีกหนึ่งอาทิตย์นะครับ ที่ตลาดไม่ได้มีความเคลื่อนไหวมากนัก ราคาน้ำมันดิบ Brent ปิดที่ 67.15 เหรียญ และคงอยู่ในกรอบ 64-68 เหรียญ มาอีกอาทิตย์นึงแล้ว รวมเป็นวันที่ 21 แล้วที่ราคายังคงอยู่ในกรอบนี้ สรุปง่ายๆว่า ช่วงนี้ราคาน้ำมันค่อนข้างติดอยู่ในกรอบ (Range Bound) แต่ก็ค่อยๆปรับฐานสูงขึ้นอย่างช้าๆ ต้องรอให้ราคาหลุดแนวต้าน 68 ไปก่อน เราถึงจะเห็นแรงซื้ออย่างรวดเร็วเข้ามาได้ เหมือนตอนที่เราหลุดกรอบ 60-63 ออกมาเมื่อตอนกลางเดือนกุมพา ช่วงสั้นๆ น่าจะมีเพียงข่าวด้านอุปทานน้ำมันของเวเนและอิหร่าน ที่อาจทำให้ราคาทะลุกรอบขึ้นมาได้ เพราะข่าวเรื่องสงครามการค้าที่ตอนแรกทางเรามองว่าน่าจะเป็นตัวผลักให้ราคาหลุดกรอบขึ้นไป น่าจะยังไม่มีข่าวดีไปอีกซักพัก จนกว่าผู้นำสหรัฐและจีนจะพบกันในเดือนเมษา แนวโน้มราคา ถึงราคาจะเป็นขาขึ้นแบบช้าๆ และทางเพจเชื่อว่าจะขึ้นต่อ อยากให้เทรดเดอร์คอยดูแนวต้านที่ 68 ให้ดี เพราะตอนนี้ราคาได้ลงมาปิดต่ำว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะสั้นแล้ว และ RSI ก็เริ่มแตะๆ จุด Over Bought ทำให้อาจมีการเทขายทำกำไรในช่วงสั้นๆได้ ทุกครั้งที่ตลาดขึ้นไปใกล้ 68 เหรียญ แต่ถ้าตลาดสามารถทะลุแ

สรุปตลาดน้ำมันประจำอาทิตย์ที่ 4 – 8 มีนาคม ครับ

Image
เป็นอาทิตย์ที่ไม่ได้มีความ เคลื่อนไหวมากในตลาดน้ำมัน ราคาน้ำมันดิบ Brent คงอยู่ในกรอบ 64-67 เหรียญ มาตลอดอาทิตย์ และเป็นวันที่ 16 แล้วที่ราคายังคงอยู่ในกรอบ  64 – 68 เหรียญ  โดยก่อนหน้านี้ราคาเพิ่งติด อยู่ในกรอบ 60-64 เหรียญมาเป็นเวลาเกือบเดือน  ทำให้หากมองภาพใหญ่ขึ้นไปอี กนิดจะเห็นได้ว่าราคาคงอยู่ ในกรอบ 60 – 68 มาเป็นเวลาสองเดือนแล้ว  สรุปง่ายๆว่า ช่วงนี้ราคาน้ำมันค่อนข้างต ิดอยู่ในกรอบ (Range Bound) ตั้งแต่ต้นปีมาราคาอยู่ในช่ วงรีบาวด์จากการเทขายเมื่อป ลายปีที่แล้ว โดยทุกๆครั้งที่ตลาดพยายามจ ะขึ้นจากข่าวปัจจัยน้ำมันตร ึงตัว ก็จะโดนฉุดกลับและย่อตัวลงม าด้วยข่าวเศรษฐกิจ ทำให้ราคาไม่สามารถขึ้นได้แ รงๆ อย่างที่เราเห็นในปีที่ผ่าน มา -------------------------- ---------------- แนวโน้มราคา ตอนนี้ข่าวที่สำคัญที่สุดยั งคงเป็นเรื่องการเจรจาสงครา มการค้า โดยหากมีบทสรุปได้คาดว่าจะท ำให้ตลาดหลุดกรอบบนที่ 68 ได้แน่ๆ แต่ถ้าการเจรจาการค้ายังเงี ยบและไม่คืบหน้า คาดว่าราคาคงยังติดอยู่ในกร อบไปซักพัก และในช่วงที่ราคาติดอยู่ในก รอบนานๆ การเครื่องไหวทางเทคนิคจะยิ ่งมีผลที่ชัดยิ่งขึ้น วันนี้จึงอาจจะ