เข้าใจง่ายๆ - การปรับอัตตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐ กระทบต่อ น้ำมัน หุ้น และ เศรษฐกิจ อย่างไรบ้าง ?
หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเมื่อปลายปีที่แล้ว ขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี ตลาดโลกก็เกิดความกังวลว่าจะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวหรือไม่ ? จะขึ้นต่ออีกครั้งในปีนี้ ?
วันนี้จึงอยากจะมาคุยกันอย่างเข้าใจง่ายๆ ว่า การปรับอัตตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐนั้น กระทบต่อ น้ำมัน หุ้น และ เศรษฐกิจ อย่างไรบ้างครับ ?
ดอกเบี้ยนโยบาย (Policy Rate) คืออะไร ? ทำไมถึงกระทบมาถึงประชาชนอย่างไร ?
อัตราดอกเบี้ยนโยบาย กับ ดอกเบี้ยที่ธนาคารคิดกับลูกค้า นั้นต่างกันนะครับ ดอกเบี้ยนโยบาย เป็นเครื่องมือหลักของธนาคารกลางของแต่ละประเทศในการส่งสัญญาณนโยบายการเงิน เพื่อที่จะควบคุมปริมาณเงินในระบบ หรือเรียกง่ายๆว่าเป็นดอกเบี้ยต้นทุนของธนาคารและสถาบันการเงินต่างๆ อีกทีนึง
เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่ ธนาคารต่างๆ มีเงินเหลือ ก็จะนำมาเงินนี้มาให้ธนาคารกลาง ที่รับกู้ด้วยอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ทำให้โดยปกติแล้ว เมื่อดอกเบี้ยนโยบายมีการปรับ ธนาคารก็จะปรับดอกเบี้ยทั้งเงินฝาก เงินกู้ ต่อไปสู่ประชาชน ไปในทิศทางเดียวกันด้วย
การขึ้นและลง ดอกเบี้ยนโยบาย กระทบต่อเศรษฐกิจอย่างไร ?
เมื่อเศรษฐกิจกำลังเติบโต ราคาสินค้าจะขึ้นสูงจากการต้องการใช้ที่มากขึ้น จนอาจทำให้เงินเฟ้อขึ้น และอาจสร้างปัญหาเพราะเมื่อเทียบกับเงินที่ประชาชนมีเท่าเดิม แต่ของแพงขึ้น จะทำให้กำลังซื้อของประชาชนลดลงไป หากธนาคารกลางในประเทศต่างๆ ต้องการจะลดอัตราเงินเฟ้อในประเทศลง ก็จะทำการขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อดึงเงินออกจากระบบ แต่ในขณะเดียวกันสภาพคล่องก็จะลดลง เพราะประชาชนจะนำเงินมาฝากมากขึ้น การใช้จ่ายจะไม่สะพัดเหมือนเดิม และดอกเบี้ยกู้ที่สูงขึ้นก็ทำให้คนกู้ลดลง ส่งผลให้เศรษฐกิจอาจชลอตัวลงได้
ในทางกลับกัน หากมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แสดงว่าช่วงนั้นเศรษฐกิจเริ่มหดตัว เงินเฟ้อต่ำลง คนไม่ค่อยใช้จ่าย ดังนั้นหากลดดอกเบี้ยเงินฝาก และเงินกู้ลง จะกระตุ้นให้คนและภาคเอกชน ถอนเงินไปใช้จ่ายเพราะฝากไว้ก็ได้ดอกเบี้ยนิดเดียว และกู้ไปลงทุนมากขึ้น เป็นการช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจขยายตัวดีขึ้น
ผลกระทบของการขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐ ต่อตลาดหุ้นโลก ตลาดหุ้นไทย และราคาน้ำมัน ?
แน่นอนครับ การขึ้นดอกเบี้ยเพื่อดึงเงินออกจากระบบ และการใช้จ่ายที่ไม่สะพัดเท่าเดิม เศรษฐกิจที่โตช้าลงนั้น จะทำให้คนไม่ซื้อหุ้น หุ้นโดนเทขาย
การขึ้นดอกเบี้ยนโยบายที่สหรัฐจะทำให้ กระแสเงินลงทุนของต่างชาติไหลกลับไปที่สหรัฐ จะทำให้ตลาดหุ้นและเศรษฐกิจไทยแย่ลงด้วย คาดว่าที่ธนาคารกลางของไทยตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 7 ปีนี้ ก็เพื่อรับมือกับดอกเบี้ยขาขึ้นของสหรัฐนี้ เพื่อกันไม่ให้ส่วนต่างของดอกเบี้ยระหว่างประเทศสูงเกินไปและจะมีเงินไหลออกมากไป
ส่วนผลกระทบต่อราคาน้ำมันนั้น ก็จะเป็นทางลบเช่นกัน ด้วยสองเหตุผลหลัก 1) หากการใช้จ่ายที่ไม่สะพัดเท่าเดิม คนก็ใช้น้ำมันน้อยลง และ 2) น้ำมันเป็นสินทรัพย์เสี่ยงหากเงินในระบบน้อย การลงทุนในน้ำมันก็น้อยลงเช่นกัน (กำลังการเข้ามาซื้อลงทุนก็น้อย)
อ่านรายละเอียดของความสัมพันธ์นี้ได้ที่ บทความก่อนนะครับ
https://www.facebook.com/OilTradingkp/photos/a.263461187540565/281313669088650/?type=3
ทำไมดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐถึงสำคัญต่อเศรษฐกิจโลกขนาดนั้น ?
เศรษฐกิจสหรัฐไม่ได้เพียงแค่มีขนาดเป็นอันดับ 1 ของโลก แต่ยังมีสัดส่วนใหญ่ถึง 1 ส่วน 4 ของโลกเลยทีเดียว โดย GDP ของโลกที่ ประมาณ 80 ล้านล้านเหรียญนั้นมาจากสหรัฐประมาณ 20 ล้านล้านเหรียญ
แน่นอนว่าดังนั้น อัตราดอกเบี้ยที่จะเป็นขาขึ้นต่อเนื่องอย่างที่ FED กล่าวไว้ จะทำให้เศรษฐกิจโลกต้องกังวล เพราะว่า ต้นทุนการเงินในระบบเศรษฐกิจโลกจะสูงขึ้นอีก นำมาซึ่งการชะลอตัวของการใช้จ่ายทั่วโลก และ อาจนำไปสู่ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ (recession) ที่ทุกคนกังวล
อัตราดอกเบี้ยนโยบาย กับ ดอกเบี้ยที่ธนาคารคิดกับลูกค้า นั้นต่างกันนะครับ ดอกเบี้ยนโยบาย เป็นเครื่องมือหลักของธนาคารกลางของแต่ละประเทศในการส่งสัญญาณนโยบายการเงิน เพื่อที่จะควบคุมปริมาณเงินในระบบ หรือเรียกง่ายๆว่าเป็นดอกเบี้ยต้นทุนของธนาคารและสถาบันการเงินต่างๆ อีกทีนึง
เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่ ธนาคารต่างๆ มีเงินเหลือ ก็จะนำมาเงินนี้มาให้ธนาคารกลาง ที่รับกู้ด้วยอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ทำให้โดยปกติแล้ว เมื่อดอกเบี้ยนโยบายมีการปรับ ธนาคารก็จะปรับดอกเบี้ยทั้งเงินฝาก เงินกู้ ต่อไปสู่ประชาชน ไปในทิศทางเดียวกันด้วย
การขึ้นและลง ดอกเบี้ยนโยบาย กระทบต่อเศรษฐกิจอย่างไร ?
เมื่อเศรษฐกิจกำลังเติบโต ราคาสินค้าจะขึ้นสูงจากการต้องการใช้ที่มากขึ้น จนอาจทำให้เงินเฟ้อขึ้น และอาจสร้างปัญหาเพราะเมื่อเทียบกับเงินที่ประชาชนมีเท่าเดิม แต่ของแพงขึ้น จะทำให้กำลังซื้อของประชาชนลดลงไป หากธนาคารกลางในประเทศต่างๆ ต้องการจะลดอัตราเงินเฟ้อในประเทศลง ก็จะทำการขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อดึงเงินออกจากระบบ แต่ในขณะเดียวกันสภาพคล่องก็จะลดลง เพราะประชาชนจะนำเงินมาฝากมากขึ้น การใช้จ่ายจะไม่สะพัดเหมือนเดิม และดอกเบี้ยกู้ที่สูงขึ้นก็ทำให้คนกู้ลดลง ส่งผลให้เศรษฐกิจอาจชลอตัวลงได้
ในทางกลับกัน หากมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แสดงว่าช่วงนั้นเศรษฐกิจเริ่มหดตัว เงินเฟ้อต่ำลง คนไม่ค่อยใช้จ่าย ดังนั้นหากลดดอกเบี้ยเงินฝาก และเงินกู้ลง จะกระตุ้นให้คนและภาคเอกชน ถอนเงินไปใช้จ่ายเพราะฝากไว้ก็ได้ดอกเบี้ยนิดเดียว และกู้ไปลงทุนมากขึ้น เป็นการช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจขยายตัวดีขึ้น
ผลกระทบของการขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐ ต่อตลาดหุ้นโลก ตลาดหุ้นไทย และราคาน้ำมัน ?
แน่นอนครับ การขึ้นดอกเบี้ยเพื่อดึงเงินออกจากระบบ และการใช้จ่ายที่ไม่สะพัดเท่าเดิม เศรษฐกิจที่โตช้าลงนั้น จะทำให้คนไม่ซื้อหุ้น หุ้นโดนเทขาย
การขึ้นดอกเบี้ยนโยบายที่สหรัฐจะทำให้ กระแสเงินลงทุนของต่างชาติไหลกลับไปที่สหรัฐ จะทำให้ตลาดหุ้นและเศรษฐกิจไทยแย่ลงด้วย คาดว่าที่ธนาคารกลางของไทยตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 7 ปีนี้ ก็เพื่อรับมือกับดอกเบี้ยขาขึ้นของสหรัฐนี้ เพื่อกันไม่ให้ส่วนต่างของดอกเบี้ยระหว่างประเทศสูงเกินไปและจะมีเงินไหลออกมากไป
ส่วนผลกระทบต่อราคาน้ำมันนั้น ก็จะเป็นทางลบเช่นกัน ด้วยสองเหตุผลหลัก 1) หากการใช้จ่ายที่ไม่สะพัดเท่าเดิม คนก็ใช้น้ำมันน้อยลง และ 2) น้ำมันเป็นสินทรัพย์เสี่ยงหากเงินในระบบน้อย การลงทุนในน้ำมันก็น้อยลงเช่นกัน (กำลังการเข้ามาซื้อลงทุนก็น้อย)
อ่านรายละเอียดของความสัมพันธ์นี้ได้ที่ บทความก่อนนะครับ
https://www.facebook.com/OilTradingkp/photos/a.263461187540565/281313669088650/?type=3
ทำไมดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐถึงสำคัญต่อเศรษฐกิจโลกขนาดนั้น ?
เศรษฐกิจสหรัฐไม่ได้เพียงแค่มีขนาดเป็นอันดับ 1 ของโลก แต่ยังมีสัดส่วนใหญ่ถึง 1 ส่วน 4 ของโลกเลยทีเดียว โดย GDP ของโลกที่ ประมาณ 80 ล้านล้านเหรียญนั้นมาจากสหรัฐประมาณ 20 ล้านล้านเหรียญ
แน่นอนว่าดังนั้น อัตราดอกเบี้ยที่จะเป็นขาขึ้นต่อเนื่องอย่างที่ FED กล่าวไว้ จะทำให้เศรษฐกิจโลกต้องกังวล เพราะว่า ต้นทุนการเงินในระบบเศรษฐกิจโลกจะสูงขึ้นอีก นำมาซึ่งการชะลอตัวของการใช้จ่ายทั่วโลก และ อาจนำไปสู่ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ (recession) ที่ทุกคนกังวล
Comments
Post a Comment