Safe Haven หากวิกฤตเศรษฐกิจกำลังใกล้เข้ามา เราควรลงทุนอย่างไรดี ?
ขออนุญาติเขียนบทความที่เกียวกับตลาดการเงินและการลงทุนกันอีกซักโพสต์นะครับ หลังจากโพสต์ที่แล้วที่เขียนเกี่ยวกับเรื่อง Inverted Yield Curve ได้รับความสนใจค่อนข้างมาก ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามนะครับ
หลังจากที่เขียนโพสต์ที่แล้วไปว่า บริษัทใหญ่ๆ หรือ กองทุนสหรัฐผู้มีความรู้ทางการเงินสูง ได้เริ่มเข้ามารัดเข็มขัดและบริหารความเสี่ยงต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) ไว้แล้ว ก็มีหลายๆท่าน Inbox เข้ามาถามนะครับว่า
1) แล้วพวกเราล่ะ ? ถ้าหากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจขึ้นจริงๆ เราควรบริหารความเสี่ยงพอทลงทุนของเราอย่างไรได้บ้าง ?
2) หุ้นสหรัฐลงกระจายจากข่าว Inverted Curve นี้ แล้วเปิดตลาดหุ้นต้นอาทิตย์หน้านั้น ตลาดบ้านเราจะเป็นอย่างไรบ้าง ?
ข้อตอบข้อ 2 ก่อนเลยนะครับว่า ผลกระทบที่ใหญ่ที่สุดของตลาดหุ้นบ้านเราในวันจันทร์นั้น คงเป็นผลของการเลือกตั้งในวันนี้ เพราะฉะนั้นตลาดจะออกมาอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับพวกเราทุกๆคนที่ออกไปใช้เสียงของเราในวันนี้ครับ ทางด้านผลกระทบของตลาดการเงินสหรัฐนั้นคงจะตามมาในระยะยาวมากกว่า
เราควรลงทุนอย่างไร หากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจขึ้นจริงๆ ?
แน่นอนครับ หากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจขึ้น ราคาหุ้นก็จะโดนเทขายลงมาอย่างแน่นอน แล้วเงินลงทุนต่างๆนี้ไปหลบอยู่ที่ไหน ? หลายๆ ท่านคงได้ยินถึงคำว่า "Safe Haven" นะครับ ว่าคือที่ๆกองทุนต่างๆจะมาพักเงินไว้ เพื่อลดความเสี่ยงในตลาดขาลง
Safe แปลว่า ปลอดภัย
Haven แปลว่า ที่พัก
Safe Haven ที่เราพูดถึงกันจึงหมายถึงที่พักหลบภัยของนักลงทุน ไม่ใช่ Safe Haven ที่เป็นหนังรักโรแมนติกที่ดังเรื่องนึงเมื่อ 5 ปีก่อนนะครับ อันนั้นเค้าหมายถึงที่พักทางใจ 55 และก็ไม่ใช่ Heaven ที่แปลว่าสวรรค์ ด้วยนะครับ เพราะ Safe Haven ก็มีโอกาศราคาลงได้ ถ้าเป็น Safe Heaven สวรรค์ของนักลงทุนจริงๆ ก็คงไม่มีวันราคาลงครับ 55
ในช่วงวิกฤตเราเองก็ควรจะย้ายเงินออกจาก สินทรัพย์เสี่ยง (Risky Asset) เช่นตลาดหุ้น ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ อสังหาริมทรัพย์ และ ราคาน้ำมัน (เราพูดถึงว่าทำไมน้ำมันจึงเป็นสินทรัพย์เสี่ยงกันบ่อยๆในเพจเรานะครับ ลองหาอ่านดูได้หรือ inbox เข้ามาถามกันได้ครับ) แล้วพยายามลงทุนใน Safe Haven Asset ให้มากขึ้น เพื่อลงความเสี่ยงของการลงทุนลงครับ
--------------------------------
แล้ว Safe Haven Asset ที่ปลอดภัยนั้นมีอะไรบ้าง ??
มีหลายๆ อย่างนะครับ แต่จะไล่จากสินทรัพย์ที่คนเชื่อว่าจะปลอดภัยที่สุดในยามวิกฤตไล่ลงไปนะครับ
1) ทอง (Gold)
ทองนั้นถือเป็น Safe Haven ที่มีความนิยมที่สุดมาตั้งแต่สมัยนานมาแล้วนะครับ นักลงทุนเชื่อว่าทอง นั้นเป็นสกุลเงินสากล (Common Currencies) ที่สำคัญที่สุดของโลก เพราะทองเป็นที่ต้องการและมีมูลค่ากับทุกๆประเทศในโลก
ไม่ว่าจะเกิดสงครามอะไรขึ้น เกิดวิกฤตอะไรก็ตาม หากเราต้องเดินทางไปต่างประเทศแล้วเราพกทองติดตัวไป เราก็สามารถนำทองไปแลกเป็นเงินได้ในทุกๆประเทศ ในขณะที่หากเราขนค่าเงินของเราไปต่างประเทศ เงินของเราอาจจะไม่มีมูลค่าเลย อย่างเช่นประเทศเวเนซูเอลาตอนนี้ ที่เงินเคยมีมูลค่าสูงแต่เพราะภาวะเงินเฟ้อนั้นทำให้เงินของเค้ากลับไม่เหลือมูลค่าเลยในประเทศอื่นๆ
ทำให้ทุกๆครั้งที่ตลาดหุ้นอยู่ในขาลง เราจะเห็นราคาทองสูงขึ้นเพราะนักลงทุนต่างๆก็โยกย้ายเงินเข้ามา ซื้อทองเพื่อเป็นการหลบภัย แต่ต้องขอเตือนว่า ทุกๆวันนี้การที่ตลาดซื้อขายทองล่วงหน้า (Gold Futures) มีความแพร่หลายมากขึ้น ก็ทำให้มีการซื้อขายทองเพื่อเก็งกำไรที่สูงขึ้น ทำให้ราคาทองผันผวนมากๆ และหลายๆครั้งก็อาจจะมีมูลค่าสูงเกินจริงจากการเก็งกำไรของนักลงทุน จึงต้องศึกษาจังหวะให้ดีก่อนที่จะย้ายเงินไปลงทุนนะครับ
2) พันธบัตรรัฐบาล (Bond)
ตามที่ได้เขียนไปในบทความเมื่อวานเลยนะครับ ว่านักลงทุนเริ่มย้ายเงินเข้าไปใน Bond ระยะยาว 10 ปีของสหรัฐเพื่อเป็นการเตรียมตัวต่อวิกฤตเศรษฐกิจแล้ว
https://www.facebook.com/OilTradingkp/photos/a.109714799581872/315921218961228/?type=3&__tn__=-R
เมื่อวิกฤตมาจริง ราคาของสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ ก็จะกันลดฮวบลงไปหมด จะถือเป็นของหรือเป็นหุ้นมูลค่าก็จะลดลงไปหมด ถ้างั้นแทนที่จะยอมเสียเงินลดลงไปชัวร์ๆ สู้ไปซื้อพันธบัตรระยะยาวไว้ดีกว่า แม้ว่าผลตอบแทนจะต่ำเท่าไหร่ก็ดีกว่าเสียเงินไปกับการถือสิ่งของหรือลงทุนแล้วขาดทุน
อย่างไรก็ตามก่อนที่จะเลือกซื้อพันธบัตรรัฐบาลก็ควรดูด้วยว่าประเทศนั้นมีความน่าเชื่อถือทางเศรษฐกิจแค่ไหน ประเทศสหรัฐ และ สหราชอาณาจักร ที่มีความมั่นคงทางการเงินสูงจึงเป็นประเทศแรกๆ ที่นักลงทุนนึกถึงที่จะไปฝากเงินไว้ด้วย
--------------------------------
3) ค่าเงินประเทศที่มั่นคงต่างๆ: สวิสฟรังก์ (CHF) เงินเยน (JPY) ดอลลาร์สหรัฐ (USD) เป็นต้น
อย่างที่บอกนะครับ ว่าเมื่อเกิดวิกฤตขึ้น ค่าเงินของประเทศที่โดนวิกฤตกระทบหนักๆ ก็จะมูลค่าลดลงไปอย่างรวดเร็ว เพราะฉะนั้นในทางตรงกันข้าม ประเทศที่มีเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งอยู่ ประเทศที่จะสามารถผ่านวิกฤตไปได้อย่างมั้นคง จะมีค่าเงินที่แข็งค่าขึ้น มีมูลค่าสูงกว่าประเทศอื่นๆที่โดนกระทบหนัก
ทำให้นักลงทุนต่างๆ วิเคราะห์และมองหาประเทศเหล่านี้ จะได้ไปแลกค่าเงินเก็บไว้และรอให้วิกฤตผ่านไปและจะได้แลกกลับมาด้วยมูลค่าที่สูงกว่า ประเทศต่างๆ ที่ได้รับความนิยมนั้นก็คือ สวิส ญี่ปุ่น และ สหรัฐอเมริกาครับ
4) ค่าเงินบาท (THB) ของพวกเรานี่เองครับ
อันนี้ไม่ได้พิมพ์ผิดนะครับ ค่าเงินของประเทศเรานี่แหละครับ ที่เป็น Safe Haven ที่ดีๆที่สุดในข่วงที่ผ่านมา โดย 6 เดือนล่าสุดนี้ค่าเงินบาทนั้นเป็นค่าเงินที่แข็งค่าที่สุดในโลก เมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐ เหตุผลหลักๆนั้นก็เพราะ เศรษฐกิจเราแข็งแรงและยังคงเกินดุลการค้าอย่างต่อเนื่องมาตลอด ทำให้ความต้องการเงินบาทจากต่างชาติยังคงสูงอยู่ตลอด
สามารถอ่านรายระเอียดต่อได้ว่าทำไม เงินบาท ถึงแข็งค่าขนาดนี้ได้ที่โพสต์นี้นะครับ
https://www.facebook.com/OilTradingkp/photos/a.301560210397329/305096323377051/?type=3
และก็ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่าวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่อาจเข้ามาในครั้งนี้ จะกระทบเรามากน้อยแค่ไหน หากว่าเราจะยังผ่านมันไปได้ดี ก็จะทำให้เราโชคดีมากๆ ที่ประเทศเราเป็น Safe Haven ในตัวอยู่แล้วครับ เงินเราก็อาจไม่ลดลง
5) ค่าเงินของประเทศกลุ่ม Emerging Markets หรือ กลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่
ที่ไหนก็ตามที่เศรษฐกิจจะยังแข็งแกร่ง และไม่โดนกระทบต่อวิกฤตเศรษฐกิจโลก เราก็สามารถฝากเงินไว้ที่สกุลเงินเหล่านั้นได้ครับ โดยส่วนมากประเทศตลาดเกิดใหม่เหล่านี้ จะโตด้วยการเติบโตภายในประเทศ กำลังการใช้จ่ายจากในประเทศ ทำให้ไม่ค่อยโดนกระทบจากวิกฤตโลก พอผ้นวิกฤตไปค่าเงินก็ยังคงแข็งแกร่งอยู่
ลองดูกลุ่มประเทศ Emerging Markets ต่างๆ ที่จะมีการเลือกตั้งในปีนี้ที่ลิงค์ด้านล่างก็ได้นะครับ หากประเทศไหนได้ผลเลือกตั้งที่ดี ก็อาจจะเป็น Safe Haven ที่ดีในปีนี้ก็ได้ครับ
https://www.facebook.com/OilTradingkp/photos/a.109714799581872/314606542426029/?type=3&permPage=1
--------------------------------
6) Bitcoin หรือ สกุลเงินดิจิตอลต่างๆ ?!?!?
อย่างที่ได้เรียนไปข้างต้นนะครับ ว่าสกุลเงินสากล (Common Currencies) ที่สำคัญที่สุดของโลก จะเป็น Safe Haven ที่ดีที่สุด ถ้าหากสกุลเงินดิจิตอลไหนสามารถมาเป็นที่ยอมรับ และรักษาเสถียรภาพในตลาดการเงินได้ ผมก็จะไม่แปลกใจเลยว่า Bitcoin ก็อาจจะมาแทนที่ทองในการเป็น Safe Haven ที่ดีที่สุดได้
แต่วันนี้ก็ต้องขอใส่เครื่องหมายคำถามไว้ก่อน เนื่องจากยังคงเป็นที่ยากจะคาดเดาบทบาทของ Bitcoin ในอนาคตครับ
--------------------------------
และทั้งหมดนี้ก็คือ List ของ Safe Haven ที่พักหลบภัยของนักลงทุนต่างๆ หวังว่าจะมีประโยชน์ไม่มาก ก็น้อยกับนักลงทุนทุกๆท่าน ให้พร้อมรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นนะครับ ขอบคุณครับ
หลังจากที่เขียนโพสต์ที่แล้วไปว่า บริษัทใหญ่ๆ หรือ กองทุนสหรัฐผู้มีความรู้ทางการเงินสูง ได้เริ่มเข้ามารัดเข็มขัดและบริหารความเสี่ยงต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) ไว้แล้ว ก็มีหลายๆท่าน Inbox เข้ามาถามนะครับว่า
1) แล้วพวกเราล่ะ ? ถ้าหากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจขึ้นจริงๆ เราควรบริหารความเสี่ยงพอทลงทุนของเราอย่างไรได้บ้าง ?
2) หุ้นสหรัฐลงกระจายจากข่าว Inverted Curve นี้ แล้วเปิดตลาดหุ้นต้นอาทิตย์หน้านั้น ตลาดบ้านเราจะเป็นอย่างไรบ้าง ?
ข้อตอบข้อ 2 ก่อนเลยนะครับว่า ผลกระทบที่ใหญ่ที่สุดของตลาดหุ้นบ้านเราในวันจันทร์นั้น คงเป็นผลของการเลือกตั้งในวันนี้ เพราะฉะนั้นตลาดจะออกมาอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับพวกเราทุกๆคนที่ออกไปใช้เสียงของเราในวันนี้ครับ ทางด้านผลกระทบของตลาดการเงินสหรัฐนั้นคงจะตามมาในระยะยาวมากกว่า
เราควรลงทุนอย่างไร หากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจขึ้นจริงๆ ?
แน่นอนครับ หากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจขึ้น ราคาหุ้นก็จะโดนเทขายลงมาอย่างแน่นอน แล้วเงินลงทุนต่างๆนี้ไปหลบอยู่ที่ไหน ? หลายๆ ท่านคงได้ยินถึงคำว่า "Safe Haven" นะครับ ว่าคือที่ๆกองทุนต่างๆจะมาพักเงินไว้ เพื่อลดความเสี่ยงในตลาดขาลง
Safe แปลว่า ปลอดภัย
Haven แปลว่า ที่พัก
Safe Haven ที่เราพูดถึงกันจึงหมายถึงที่พักหลบภัยของนักลงทุน ไม่ใช่ Safe Haven ที่เป็นหนังรักโรแมนติกที่ดังเรื่องนึงเมื่อ 5 ปีก่อนนะครับ อันนั้นเค้าหมายถึงที่พักทางใจ 55 และก็ไม่ใช่ Heaven ที่แปลว่าสวรรค์ ด้วยนะครับ เพราะ Safe Haven ก็มีโอกาศราคาลงได้ ถ้าเป็น Safe Heaven สวรรค์ของนักลงทุนจริงๆ ก็คงไม่มีวันราคาลงครับ 55
ในช่วงวิกฤตเราเองก็ควรจะย้ายเงินออกจาก สินทรัพย์เสี่ยง (Risky Asset) เช่นตลาดหุ้น ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ อสังหาริมทรัพย์ และ ราคาน้ำมัน (เราพูดถึงว่าทำไมน้ำมันจึงเป็นสินทรัพย์เสี่ยงกันบ่อยๆในเพจเรานะครับ ลองหาอ่านดูได้หรือ inbox เข้ามาถามกันได้ครับ) แล้วพยายามลงทุนใน Safe Haven Asset ให้มากขึ้น เพื่อลงความเสี่ยงของการลงทุนลงครับ
--------------------------------
แล้ว Safe Haven Asset ที่ปลอดภัยนั้นมีอะไรบ้าง ??
มีหลายๆ อย่างนะครับ แต่จะไล่จากสินทรัพย์ที่คนเชื่อว่าจะปลอดภัยที่สุดในยามวิกฤตไล่ลงไปนะครับ
1) ทอง (Gold)
ทองนั้นถือเป็น Safe Haven ที่มีความนิยมที่สุดมาตั้งแต่สมัยนานมาแล้วนะครับ นักลงทุนเชื่อว่าทอง นั้นเป็นสกุลเงินสากล (Common Currencies) ที่สำคัญที่สุดของโลก เพราะทองเป็นที่ต้องการและมีมูลค่ากับทุกๆประเทศในโลก
ไม่ว่าจะเกิดสงครามอะไรขึ้น เกิดวิกฤตอะไรก็ตาม หากเราต้องเดินทางไปต่างประเทศแล้วเราพกทองติดตัวไป เราก็สามารถนำทองไปแลกเป็นเงินได้ในทุกๆประเทศ ในขณะที่หากเราขนค่าเงินของเราไปต่างประเทศ เงินของเราอาจจะไม่มีมูลค่าเลย อย่างเช่นประเทศเวเนซูเอลาตอนนี้ ที่เงินเคยมีมูลค่าสูงแต่เพราะภาวะเงินเฟ้อนั้นทำให้เงินของเค้ากลับไม่เหลือมูลค่าเลยในประเทศอื่นๆ
ทำให้ทุกๆครั้งที่ตลาดหุ้นอยู่ในขาลง เราจะเห็นราคาทองสูงขึ้นเพราะนักลงทุนต่างๆก็โยกย้ายเงินเข้ามา ซื้อทองเพื่อเป็นการหลบภัย แต่ต้องขอเตือนว่า ทุกๆวันนี้การที่ตลาดซื้อขายทองล่วงหน้า (Gold Futures) มีความแพร่หลายมากขึ้น ก็ทำให้มีการซื้อขายทองเพื่อเก็งกำไรที่สูงขึ้น ทำให้ราคาทองผันผวนมากๆ และหลายๆครั้งก็อาจจะมีมูลค่าสูงเกินจริงจากการเก็งกำไรของนักลงทุน จึงต้องศึกษาจังหวะให้ดีก่อนที่จะย้ายเงินไปลงทุนนะครับ
2) พันธบัตรรัฐบาล (Bond)
ตามที่ได้เขียนไปในบทความเมื่อวานเลยนะครับ ว่านักลงทุนเริ่มย้ายเงินเข้าไปใน Bond ระยะยาว 10 ปีของสหรัฐเพื่อเป็นการเตรียมตัวต่อวิกฤตเศรษฐกิจแล้ว
https://www.facebook.com/OilTradingkp/photos/a.109714799581872/315921218961228/?type=3&__tn__=-R
เมื่อวิกฤตมาจริง ราคาของสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ ก็จะกันลดฮวบลงไปหมด จะถือเป็นของหรือเป็นหุ้นมูลค่าก็จะลดลงไปหมด ถ้างั้นแทนที่จะยอมเสียเงินลดลงไปชัวร์ๆ สู้ไปซื้อพันธบัตรระยะยาวไว้ดีกว่า แม้ว่าผลตอบแทนจะต่ำเท่าไหร่ก็ดีกว่าเสียเงินไปกับการถือสิ่งของหรือลงทุนแล้วขาดทุน
อย่างไรก็ตามก่อนที่จะเลือกซื้อพันธบัตรรัฐบาลก็ควรดูด้วยว่าประเทศนั้นมีความน่าเชื่อถือทางเศรษฐกิจแค่ไหน ประเทศสหรัฐ และ สหราชอาณาจักร ที่มีความมั่นคงทางการเงินสูงจึงเป็นประเทศแรกๆ ที่นักลงทุนนึกถึงที่จะไปฝากเงินไว้ด้วย
--------------------------------
3) ค่าเงินประเทศที่มั่นคงต่างๆ: สวิสฟรังก์ (CHF) เงินเยน (JPY) ดอลลาร์สหรัฐ (USD) เป็นต้น
อย่างที่บอกนะครับ ว่าเมื่อเกิดวิกฤตขึ้น ค่าเงินของประเทศที่โดนวิกฤตกระทบหนักๆ ก็จะมูลค่าลดลงไปอย่างรวดเร็ว เพราะฉะนั้นในทางตรงกันข้าม ประเทศที่มีเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งอยู่ ประเทศที่จะสามารถผ่านวิกฤตไปได้อย่างมั้นคง จะมีค่าเงินที่แข็งค่าขึ้น มีมูลค่าสูงกว่าประเทศอื่นๆที่โดนกระทบหนัก
ทำให้นักลงทุนต่างๆ วิเคราะห์และมองหาประเทศเหล่านี้ จะได้ไปแลกค่าเงินเก็บไว้และรอให้วิกฤตผ่านไปและจะได้แลกกลับมาด้วยมูลค่าที่สูงกว่า ประเทศต่างๆ ที่ได้รับความนิยมนั้นก็คือ สวิส ญี่ปุ่น และ สหรัฐอเมริกาครับ
4) ค่าเงินบาท (THB) ของพวกเรานี่เองครับ
อันนี้ไม่ได้พิมพ์ผิดนะครับ ค่าเงินของประเทศเรานี่แหละครับ ที่เป็น Safe Haven ที่ดีๆที่สุดในข่วงที่ผ่านมา โดย 6 เดือนล่าสุดนี้ค่าเงินบาทนั้นเป็นค่าเงินที่แข็งค่าที่สุดในโลก เมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐ เหตุผลหลักๆนั้นก็เพราะ เศรษฐกิจเราแข็งแรงและยังคงเกินดุลการค้าอย่างต่อเนื่องมาตลอด ทำให้ความต้องการเงินบาทจากต่างชาติยังคงสูงอยู่ตลอด
สามารถอ่านรายระเอียดต่อได้ว่าทำไม เงินบาท ถึงแข็งค่าขนาดนี้ได้ที่โพสต์นี้นะครับ
https://www.facebook.com/OilTradingkp/photos/a.301560210397329/305096323377051/?type=3
และก็ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่าวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่อาจเข้ามาในครั้งนี้ จะกระทบเรามากน้อยแค่ไหน หากว่าเราจะยังผ่านมันไปได้ดี ก็จะทำให้เราโชคดีมากๆ ที่ประเทศเราเป็น Safe Haven ในตัวอยู่แล้วครับ เงินเราก็อาจไม่ลดลง
5) ค่าเงินของประเทศกลุ่ม Emerging Markets หรือ กลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่
ที่ไหนก็ตามที่เศรษฐกิจจะยังแข็งแกร่ง และไม่โดนกระทบต่อวิกฤตเศรษฐกิจโลก เราก็สามารถฝากเงินไว้ที่สกุลเงินเหล่านั้นได้ครับ โดยส่วนมากประเทศตลาดเกิดใหม่เหล่านี้ จะโตด้วยการเติบโตภายในประเทศ กำลังการใช้จ่ายจากในประเทศ ทำให้ไม่ค่อยโดนกระทบจากวิกฤตโลก พอผ้นวิกฤตไปค่าเงินก็ยังคงแข็งแกร่งอยู่
ลองดูกลุ่มประเทศ Emerging Markets ต่างๆ ที่จะมีการเลือกตั้งในปีนี้ที่ลิงค์ด้านล่างก็ได้นะครับ หากประเทศไหนได้ผลเลือกตั้งที่ดี ก็อาจจะเป็น Safe Haven ที่ดีในปีนี้ก็ได้ครับ
https://www.facebook.com/OilTradingkp/photos/a.109714799581872/314606542426029/?type=3&permPage=1
--------------------------------
6) Bitcoin หรือ สกุลเงินดิจิตอลต่างๆ ?!?!?
อย่างที่ได้เรียนไปข้างต้นนะครับ ว่าสกุลเงินสากล (Common Currencies) ที่สำคัญที่สุดของโลก จะเป็น Safe Haven ที่ดีที่สุด ถ้าหากสกุลเงินดิจิตอลไหนสามารถมาเป็นที่ยอมรับ และรักษาเสถียรภาพในตลาดการเงินได้ ผมก็จะไม่แปลกใจเลยว่า Bitcoin ก็อาจจะมาแทนที่ทองในการเป็น Safe Haven ที่ดีที่สุดได้
แต่วันนี้ก็ต้องขอใส่เครื่องหมายคำถามไว้ก่อน เนื่องจากยังคงเป็นที่ยากจะคาดเดาบทบาทของ Bitcoin ในอนาคตครับ
--------------------------------
และทั้งหมดนี้ก็คือ List ของ Safe Haven ที่พักหลบภัยของนักลงทุนต่างๆ หวังว่าจะมีประโยชน์ไม่มาก ก็น้อยกับนักลงทุนทุกๆท่าน ให้พร้อมรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นนะครับ ขอบคุณครับ
Comments
Post a Comment