"ปัจจัยพื้นฐานของตลาดน้ำมันตอนนี้กำลังตึงตัว"
ราคาน้ำมันดิบ Brent ยังคงไต่ขึ้นมาเรื่อยๆ จะถึงระดับ 72 เหรียญแล้วนะครับ ท่านที่ติดตามการวิเคราะห์ราคาน้ำมันตามข่าวมาคงได้ยินว่า "ปัจจัยพื้นฐานของตลาดน้ำมันตอนนี้กำลังตึงตัว"
แต่จะตึงตัวเท่าไหร่นั้น ? และวัดได้อย่างไรนั้น ? ทางโอเปกเพิ่งออกตัวเลขประเมินการออกมาให้เราครับ
แล้วตอนนี้ตลาดน้ำมันตึงตัวหรือไม่ ?
เนื่องจากกลุ่มโอเปกก็ได้ใช้วิธีคำนวนนี้มาตลอดในการกะว่าพวกเค้าควรผลิตน้ำมันออกมาในตลาดเท่าไหร่ตลาดจึงจะไม่ล้นเกินไป ทำให้ทางกลุ่มมีการศึกษาและคอยดูปริมาณสต็อกทั่วโลกตลอดเวลา และนี้คือสิ่งที่ทางโอเปกคาดการณ์ครับ
สต็อกน้ำมันดิบเป็นอีกหนึ่งตัวชี้วัดสำคัญของตลาด (Indicator) ที่เทรดเดอร์ต้องติดตาม
ตอนนี้มาติดตามดูตัวเลขสต็อกสหรัฐ (EIA) ในคืนนี้กันครับ ว่าจะดันให้ตลาดยืนอยู่เหนือ 72 เหรียญต่อไปได้หรือไม่ครับ
--------------------------------------
เราจะวัดได้อย่างไรว่าความต้องการใช้น้ำมันของโลกนั้นสูงหรือน้อยกว่าปริมาณน้ำมันที่กำลังผลิตออกมาสู่ตลาด ( ถ้าสูงกว่า = สภาพตลาดตึงตัว) ?
การจะวัดว่าความต้องการใช้น้ำมันของโลกนั้น เราคงไม่สามารถไปวัดได้จากปริมาณการเติมน้ำมันจากทุกๆ ปั้ม ทุกๆสนามบิน ทุกๆท่าเรือ หรือ ทุกๆโรงงาน มันคงจะยุ่งยากและใช้ทรัพยากรอย่างมหาศาลในการจะวัดมากๆเลยครับ ส่วนการที่จะวัดปริมาณน้ำมันที่ผลิตออกมาในตลาด ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง ถึงอาจจะไม่ยากเท่า แต่เวลาที่ต่างกัน (Time lag) ในการวัดการใช้และการผลิต อาจจะให้เกิดข้อมูลที่ผิดผลาดได้
ทำให้นักวิเคราะห์ตลาดน้ำมันต่างๆ จึงทำได้หาวิธีดูสภาพตลาดว่าตึงตัวหรือไม่จากระดับการเปลี่ยนแปลงไปของปริมาณสำรองน้ำมันในทั่วๆโลก (สต็อกน้ำมัน) ตามช่วงเวลาต่างๆแทน เพราะด้วยวิธีนี้ ไม่ว่าการผลิตน้ำมันจะออกมาเยอะหรือน้อยเท่าไหร่ จะวัดได้ถูกต้องเป๊ะหรือไม่ ก็ไม่สำคัญ เพราะตราบใดที่ผลิตออกมาไม่เพียงพอต่อการใช้ ระดับสต็อกน้ำมันจะลดลงแน่ๆ หรือหากระดับสต็อกเพิ่มขึ้นก็แปลว่าการผลิตกำลังมีไม่พอต่อความต้องการใช้
ปริมาณสต็อกน้ำมัน ที่เปลี่ยนแปลงไป หากเป็น
ปริมาณสต็อกน้ำมัน ที่เปลี่ยนแปลงไป หากเป็น
+บวก ก็แปลว่า การผลิตน้ำมัน > ความต้องการใช้น้ำมันต่อวัน (ตลาดไม่ตึงตัว)
+ลบ ก็แปลว่า การผลิตน้ำมัน < ความต้องการใช้น้ำมันต่อวัน (ตลาดตึงตัว)
--------------------------------------
เนื่องจากกลุ่มโอเปกก็ได้ใช้วิธีคำนวนนี้มาตลอดในการกะว่าพวกเค้าควรผลิตน้ำมันออกมาในตลาดเท่าไหร่ตลาดจึงจะไม่ล้นเกินไป ทำให้ทางกลุ่มมีการศึกษาและคอยดูปริมาณสต็อกทั่วโลกตลอดเวลา และนี้คือสิ่งที่ทางโอเปกคาดการณ์ครับ
สต็อกน้ำมันดิบทั่วโลกกำลังจะปรับตัวลดลงในระดับที่สูงและเร็วที่สุดในรอบ 2 ปี ! (ดูกราฟได้ในคอมเม้นนะครับ)
ทางโอเปกได้ออกตัวเลขนี้ออกมาให้ตลาดเห็นว่าสภาพตลาดนี้กำลังตึงตัวแค่ไหน โดยในแค่ช่วงไตรมาสที่ 2-3 ของปีนี้รวมกัน สต็อกน้ำมันกำลังจะลดลงไปเป็นปริมาณ 0.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในขณะที่เฉลี่ย 5 ไตรมาสที่ผ่านมาปริมาณ สต็อกน้ำมันเพิ่มขึ้นมาเพียงไตรมาสละ 0.5 ล้านบาร์เรลต่อวันเท่านั้น
--------------------------------------
สต็อกน้ำมันดิบเป็นอีกหนึ่งตัวชี้วัดสำคัญของตลาด (Indicator) ที่เทรดเดอร์ต้องติดตาม
และตัวเลขสต็อกสหรัฐนั้นเป็นตัวเลขที่ประกาศเป็นรายอาทิตย์ (EIA ประกาศทุกๆคืนวันพุธเวลา 3 ทุ่มครึ่งบ้านเรา) เป็นข้อมูลสต็อกที่เร็วและละเอียดที่สุดในโลก จึงเป็น Leading Indicator ที่จะบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพน้ำมันได้รวดเร็วที่สุดในตลาด และผลกระทบต่อราคานั้นก็ไม่ต่างกับผลกระทบต่อตลาดหุ้น จากการประกาศตัวเลข GDP , การประกาศผลประกอบการต่างๆ ซึ่งทุกๆผุ้ซื้อขายในตลาดจะตั้งหน้าตั้งตารอดู และตลาดก็จะมีการคาดการณ์ตัวเลขไว้คร่าวๆ ก่อนด้วย และหากตัวเลขออกมาตรงข้ามหรือยอดต่างกับที่คาดการณ์ไว้เยอะ ก็จะทำให้ราคาขยับค่อนข้างรุนแรง เพราะทุกๆ ผู้เล่นจะอยู่ที่หน้าจอและพร้อมจะซื้อขาย ทำให้ Volume จะสูงมาก
Comments
Post a Comment