3 ประโยคที่พ่อสอนสั่ง "สี จิ้นผิง" ประธานาธิบดีจีน

เจอเรื่องราวดีๆ ในการพัฒนาตนเองอีกเรื่องนะครับ เลยนำแชร์ใน #สาระเบาๆเสาร์อาทิตย์ ครับ

3 ประโยคที่พ่อสอนสั่ง "สี จิ้นผิง" ประธานาธิบดีจีน

-------------------------

ตอนเด็กๆ ข้าพเจ้าเป็นคนเห็นแก่ตัวมาก เจออะไรดีๆ จะอยากเอามาเป็นของตัวเองให้ได้ โดยไม่ใส่ใจว่าคนอื่นเขาคิดอย่างไร นานเข้า เพื่อนๆ หายไปทีละคนสองคน มีเพื่อนน้อยลงไปเรื่อยๆ ข้าพเจ้ากลัดกลุ้มและหงุดหงิดใจมาก

1) มีอยู่คืนหนึ่ง คุณพ่อทำบะหมี่สองชาม ชามหนึ่งมีไข่ไก่ฟองหนึ่งบนบะหมี่ อีกชามดูไม่มีอะไร มีแต่บะหมี่ คุณพ่อถามข้าพเจ้าว่าจะทานชามไหน ?

ตอนนั้นไข่ไก่เป็นของหายากมาก ก็แหงอยู่แล้ว ข้าพเจ้าก็เลือกทานชามที่มีไข่โปะอยู่ข้างบน

แต่ตอนที่ทานอย่างเอร็ดอร่อยอยู่นั้น เห็นคุณพ่อทานถึงก้นชามแล้ว ในก้นชามถึงกับมีไข่สองฟอง ข้าพเจ้ารู้สึกเสียใจ ที่ตนใจร้อนไม่ได้คิดให้ดี จึงเลือกผิด

คุณพ่อเห็น ท่านก็ยิ้ม แล้วพูดกับข้าพเจ้าว่า “ลูกเอ๋ย เจ้าจงจำไว้ ที่ตาเห็นนั้นอาจไม่ใช่ของแท้ คิดจะเอาเปรียบคนอื่น กลับขาดทุนใหญ่หลวงได้นะลูก”

2) ในคืนที่สอง คุณพ่อก็ทำบะหมี่อีกสองชาม ดูแล้วเหมือนของคืนก่อนไม่มีผิด ชามหนึ่งมีไข่โปะอยู่ฟองหนึ่ง อีกชามหนึ่งคล้ายมีแต่บะหมี่ อีกแล้ว !

คุณพ่อให้ข้าพเจ้าเลือก ข้าพเจ้าเสียค่าโง่ไปทีแล้ว ข้าพเจ้าเลือกเอาชามที่ไม่มีไข่ แล้วรีบโกยบะหมี่เข้าปาก ด้วยความคิดที่จะทานไข่ในก้นชามไวๆ แต่หารู้ไม่ว่า นอกจากบะหมี่แแล้ว ไม่มีอะไรอยู่ที่ก้นชามเลย

คุณพ่อกับกล่าวกับข้าพเจ้าว่า “ลูก เจ้าจงจำไว้ให้ดีนะลูกนะ อย่าให้ความสำคัญ หรือเชื่อในประสบการณ์มากเกินไป เพราะการดำรงชีวิตมีการพลิกเพลง หลอกเราได้เสมอ แต่ลูกก็ไม่ต้องท้อแท้ ไม่ต้องเสียใจ ถือว่าเป็นการลิ้มลองเป็นประสบการณ์ก็แล้วกันนะลูก ภูมิปัญญาเหล่านี้หาอ่านจากตำราไม่ได้นะ”

3) ในคืนที่สาม คุณพ่อก็ทำบะหมี่สองชามอีก ดูเป็นแบบเดียวกันอีกแล้ว ชามหนึ่งมีไข่ฟองหนึ่ง อีกชามไม่มีไข่

คราวนี้ข้าพเจ้าให้คุณพ่อเลือกก่อน ไม่หุนหันเหมือนสองคืนที่ผ่านมา ข้าพเจ้าพูดกับคุณพ่อด้วยความเคารพว่า “คุณพ่อครับ ท่านเป็นผู้ใหญ่ ท่านเหน็ดเหนื่อยกับการดูแลครอบครัวเรามามากแล้ว คุณพ่อเลือกก่อนเถอะครับ”

คุณพ่อเลือกเอาชามที่มีไข่หนึ่งฟอง ส่วนข้าพเจ้าก็ทานชามที่ไม่เห็นมีไข่ แต่ผิดคาดนะครับ ในก้นชามมีไข่อยู่สองฟอง !

คุณพ่อเงยหน้าขึ้น และพูดกับข้าพเจ้าว่า “ลูกต้องจำไว้ให้ดีนะ เมื่อลูกคิด และทำเพื่อคนอื่นแล้ว ความโชคดีก็บังเกิดกับเราได้นะ”

คำพูดของคุณพ่อทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกละอายใจในตัวเองเป็นอย่างมาก นับแต่นั้นมา ข้าพเจ้าก็จดจำสามประโยคของคุณพ่อไว้มิรู้ลืม ยึดเป็นสรณะในการดำรงชีวิต ไม่ว่าเป็นการวางตัวหรือปฏิบัติหน้าที่ ก็มักจะคำนึงถึงประโยชน์ของคนอื่นก่อน ผลก็เป็นอย่างที่คุณพ่อได้สอนสั่งไว้จริงๆ ความโชคดีมาเยือนมิได้ขาด และหน้าที่การงานของตัวเองก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ งานบางอย่างก็ไปแบบก้าวกระโดดเลยทีเดียว

ที่มาแปลโดย: อาทร ฟุ้งธรรมสาร

Comments

Popular posts from this blog

"รูปปั้นโอกาส"

ราคาน้ำมันในไทยนั้นอ้างอิงมาจากสิงคโปร์ แต่ราคาที่สิงคโปร์นั้นเค้ากำหนดมาอย่างไร ?

IMO 2020 คืออะไร ? การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของตลาดน้ำมัน