ลงทุนกองทุนน้ำมันตอนนี้อาจดี ราคาไม่ต้องขึ้นก็ได้ผลตอบแทนแล้ว ! เพราะ Roll Yield เป็นบวก +

ในช่วงที่ตลาดหุ้นผันผวนและหลายคนมองหาทางเลือกในการลงทุนใหม่ๆ ช่วงนี้กองทุนน้ำมันอาจเป็นอีกคำตอบครับ เพราะด้วยรูปแบบของตลาดนั้นอาจทำให้เราได้ผลตอบแทน โดยที่ราคาน้ำมันไม่ต้องขึ้นเลยก็ได้ ! เดี๋ยวทางเพจจะอธิบายให้เข้าใจกันง่ายๆนะครับ

ใครไม่เข้าใจก็ข้าม ไปอ่านด้านล่างสุดเลยก็ได้ครับ 55



กองทุนน้ำมันที่ลงทุนได้คืออะไร ?

กองทุนน้ำมันนั้น ตอนนี้ก็เป็นช่องทางการลงทุนที่แพร่หลายในประเทศไทยแล้วนะครับ ทุกๆท่านสามารถหาซื้อได้ตามธนาคารต่างๆเลย ยกตัวอย่างเช่น K-oil (Kbank) , SCBOIL , KTAM-OIL (KTB), Krungsri Oil และอีกหลายๆแบงค์

กองทุนเหล่านี้เป็น EFT หรือ Exchange Traded Fund ซึ่งแปลความหมายง่ายก็คือว่า เป็นกองทุนเปิดที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เพื่อให้ผู้ลงทุนซื้อขาย สินทรัพย์ต่างๆ เช่น น้ำมัน ทอง สินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ หรือ อัตตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างๆ ได้สะดวกเหมือนหุ้นเลย ไม่ต้องไปนั่งเก็บสินค้าจริงๆไว้ในห้อง หากคิดจะเก็งกำไร ไม่งั้นคงเหนื่อยและต้องระวังของหายตลอดเวลาครับ 555

----------------------------

ความเสี่ยงและผลตอบแทนหลักของกองทุนนี้คืออะไร ?

เกือบทุกๆกองทุนน้ำมันในประเทศเราจะนำเงินไปลงทุนต่อที่ DB oil fund ของสหรัฐซื่งนำเงินไปลงทุนในตลาดน้ำมัน WTI Future นั้นเอง ทำให้ผลการตอบแทนเบื้องต้นก็ดูกันง่ายๆครับ ราคาน้ำมัน WTI ขึ้น ผลตอบแทนก็เป็นบวก ความเสี่ยงคือราคาน้ำมันลง ผลตอบแทนก็เป็นลบครับ
แต่ผลตอบแทน NAV ของแต่ละแบงค์อาจจะออกมาไม่เท่ากันซะทีเดียว เพราะแต่ละธนาคาร มีนโยบายบริหารความเสี่ยงอัตตราแลกเปลี่ยนของแต่ละกองทุน ที่ไม่เหมือนกัน ต้องอ่านรายละเอียดและสอบถามให้ดีก่อนว่ากองทุนไหนมีนโยบายอย่างไร

-----------------------------------

Roll Yield คืออะไร ? ทำไมราคาไม่ขึ้นถึงมีผลตอบแทน

กองทุนน้ำมันจะนำเงินผู้ลงทุนไปซื้อสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมัน WTI โดยสัญญา WTI Future นี้ จะมีเดือนส่งมอบให้เลือกหลายๆเดือน โดยแต่ละสัญญาจะมีกำหนดหมดอายุทุกๆเดือน (ราคาที่เราเห็นและได้ยินในทีวี ก็คือราคาเดือนแรกสุด) โดยส่วนมากกองทุนจะเลือกซื้อสัญญาเดือนแรกสุดเพราะสภาพคล่อง (Liquidity) ที่ดีที่สุดและเพื่อให้ราคาที่กองทุนถือใกล้เคียงกับตลาดปัจจุบันที่สุด แต่ทุกๆเดือนเมื่อสัญญาที่ถืออยู่ใกล้หมดอายุ ทางกองทุนก็มีความจำเป็นที่จะต้องขายปิดสัญญาปัจจุบันแล้วไปซื้อสัญญาถัดไป (เดือนที่สอง) เพื่อที่จะได้รักษาปริมาณการซื้อหรือความเสี่ยงของกองทุนให้เท่าเดิมต่อไป (Maintain Long Position) เราเรียกการขายและไปซื้อแบบนี้ว่าการ Roll สัญญา

ทุกๆเดือนที่กองทุนต้องขายและซื้อสัญญาใหม่ จะเกิดผลตอบแทนเป็นบวกหรือลบ ก็ขึ้นอยู่กับส่วนต่างของราคาในเดือนถัดไปว่าสูงหรือต่ำกว่าเดือนปัจจุบัน หากราคาในเดือนถัดไปต่ำกว่าเดือนปัจจุบัน เราก็จะมีกำไรจากการ Roll หรือเรียกว่า Positive Roll yield เพราะว่าเราจะขายสัญญาปัจจุบันทิ้งที่ราคาสูง และไปเริ่มต้นทุนสัญญาใหม่ที่ราคาต่ำกว่า

ยกตัวอย่างเช่น หากราคา WTI เดือนปัจจุบัน คือ 65 เหรียญ และราคาเดือนถัดไป คือ 64.50 เหรียญ หากกองทุนขาย 65 แล้วซื้อกลับที่ 64.50 จะทำให้มีต้นทุนใหม่เป็น 64.50 เหรียญแทน แล้วหากราคาปรับตัวสูงขึ้นมาอีกครั้งเป็น 65 เหรียญที่เดิม กองทุนจะมีกำไร 0.50 เหรียญ หรือคิดเป็น 0.8% ทั้งๆที่ ราคาที่เราเห็นในข่าวทุกๆวันคือ WTI ยังแค่คงอยู่ที่ 65 เหรียญตลอด แต่กองทุนนี้ก็ยังจะได้ผลกำไรจาก Roll yield เดือนนี้ที่ 0.8% แม้ราคาจะไม่ได้ขึ้น

และหากดูไปยาวๆตอนนี้ Roll yield ของ WTI ที่ 1 ปีล่วงหน้าตอนนี้กำลังอยู่ที่ 4 เหรียญหรือผลตอบแทนประมาณ 5-7% ต่อปีโดยที่ไม่รวมผลตอบแทนจากความเคลื่อนไหวของราคาอีก ส่วนน้ำมัน Brent นั้นยิ่งมี Roll yield ที่สูงกว่าที่8-10% เลยทีเดียว โดยกองทุนน้ำมัน Brent นั้นมีอยู่มากมายทั่วโลกนะครับ แต่คงต้องถามดูว่าแบงค์ไหนมีใครลงทุนในกอง Brent หรือป่าว ถ้ามีก็จะยิ่งดีกว่าอีก

-----------------------------------

แล้ว Roll Yield มันจะกลับเป็นลบได้ไหม ? ขึ้นอยู่กับอะไร ?

เป็นได้ทั้งบวกและลบครับ Roll yield โดยจะขึ้นอยู่กับรูปแบบราคาของสัญญาซื้อขายล่วง (Forward curve) ที่หน้ามี 2 แบบ

1) Backwardation - การที่ราคาในเดือนถัดไปต่ำกว่าเดือนปัจจุบัน - จะทำให้ Roll Yield เป็นบวกตามที่ได้เคยอธิบายไว้

2) Contango - การที่ราคาในเดือนถัดไปสูงกว่าเดือนปัจจุบัน - จะทำให้ Roll Yield เป็นลบ และไม่น่าลงทุน

โดยสภาพตลาดตอนนี้ยังอยู่ในรูปแบบ Backwardation และกำลังชันขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ดีต่อ Roll Yield ใครอยากจะศึกษาเรื่องรูปแบบของ Forward curve ก็ลองอ่านดูเพิ่มได้ที่นี่นะครับ

https://www.facebook.com/OilTradingkp/photos/p.291426264744057/291426264744057/?type=1&theater

-----------------------------------

สรุปสำหรับคนที่ยัง งง Roll Yield อยู่ - อธิบายง่ายๆได้ไหมครับ 555 ?

ยังมีใครงงอยู่อีกไหมครับ ไม่ต้องห่วงนะครับ เพราะรูปแบบการลงทุนมันค่อนข้างซับซ้อนแต่ผมจะอธิบายให้เข้าใจง่ายๆเลย โดยลืมเรื่องน้ำมันไปก่อนเลยนะครับ

ขอยกตัวอย่างการลงทุนแบบนี้ เปรียบเทียบกับการลงทุนที่เราคุ้นชินกันแทนนะครับ เช่น 1) การซื้อคอนโดให้คนเช่า กับ 2) การไปเช่าที่เพื่อการลงทุน

1) การซื้อคอนโดให้คนเช่า นั้นก็จะเหมือนกับ Roll Yield เป็นบวก

จุดประสงค์ของการลงทุนคอนโดคือเก็งกำไรให้ราคาคอนโดขึ้นใช่ไหมครับ ? ถ้าราคาขึ้นก็ดีเรามีกำไร แต่ถ้าราคาลงเราก็อาจขาดทุน แต่ระหว่างทางที่เรากำลังลงทุนอยู่ เราก็จะได้ค่าเช่าเก็บไว้ในกระเป๋าตลอด อันนี้เราเรียกว่า Roll Yield เป็นบวก เพราะตลอดการลงทุนต่อให้ราคาคอนโดเท่าเดิม เราก็มีผลตอบแทนเข้ามาตลอด

2) เทียบกับ การไปเช่าที่เพื่อการลงทุน นั้น Roll Yield จะเป็นลบ

ยกตัวอย่าง่นการไปเช่าที่ในห้างเพื่อการลงทุน จุดประสงค์หลักของเราก็คือธุรกิจที่กำไร หวังว่าของเราจะขายได้ดี มูลค่ากิจการเราจะเพิ่ม แต่ระหว่างทางที่เรากำลังลงทุนอยู่ ทุกๆเดือนเราก็ต้องจ่ายค่าเช่าออกจากกระเป๋าเราอยู่เสมอ ทำให้ต่อให้ธุรกิจเราราคาขึ้น แต่จะกำไรหรือไม่ก็ยังต้องมีการหักต้นทุนนี้ทุกๆเดือนออกไปก่อน ทำให้การลงทุนนั้นอาจจะตัดสินใจยากขึ้น

ทำให้การลงทุนในน้ำมันในช่วงที่ Roll Yield เป็นบวกนั้น เสมือนกับการพายเรือตามกระแสน้ำ ถ้าทำได้ดีแล้วยิ่งแล่นไปได้เร็ว แต่การลงทุนเมื่อ Roll Yield เป็นลบนั้น จะเหมือนกับการทวนกระแสน้ำ ต้องทำได้ดีมากๆเลยถึงจะแล่นไปข้างหน้าได้

เราขอไม่พูดถึงส่วนต่างของดอกเบี้ยระหว่างผู้เช่าหรือผู้ให้เช่าในการยกตัวอย่างนี้นะครับ เดี๋ยวจะยาว 555 เอาเป็นว่าทุกท่านคงเห็นภาพแล้ว

-----------------------------------

*** ต้องบอกว่า การลงทุนมีความเสี่ยง ไม่ได้บอกว่าราคาจะขึ้นแน่ๆ แต่เป็นแค่ความเห็นส่วนตัวว่า เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าลงทุนและอยากมาอธิบายเรื่อง Roll Yield ของน้ำมันให้ได้ฟังกันครับ ***

และนี่คือ 4 ปัจจัยพื้นฐานที่อาจทำให้ราคาน้ำมันขึ้นได้อีก ซึ่งยิ่งเหมาะต่อการลงทุน

https://www.facebook.com/OilTradingkp/photos/a.109714799581872/334751150411568/?type=3&theater




























Comments

Popular posts from this blog

"รูปปั้นโอกาส"

ราคาน้ำมันในไทยนั้นอ้างอิงมาจากสิงคโปร์ แต่ราคาที่สิงคโปร์นั้นเค้ากำหนดมาอย่างไร ?

IMO 2020 คืออะไร ? การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของตลาดน้ำมัน