🔎 [ANALYSIS] หนึ่งในข่าวที่ใหญ่ที่สุดในตลาดการเงินวันนี้คือการที่หุ้น Softbank บริษัทที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 3 ของญี่ปุ่นตกลงวันเดียวถึง -7% หลังจากที่ทางบริษัทออกรายงานว่า ได้ทำการลงทุนโดยการใช้ Options Derivatives เข้ามาช่วยเพิ่มผลตอบแทนมากขึ้น #แต่นักลงทุนกลับกลัวและคิดว่าบริษัทกำลังอาจเล่นพนันมากเกินไป โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดกำลังผันผวนหนักนี้

🔎 [ANALYSIS] หนึ่งในข่าวที่ใหญ่ที่สุดในตลาดการเงินวันนี้คือการที่หุ้น Softbank บริษัทที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 3 ของญี่ปุ่นตกลงวันเดียวถึง -7% หลังจากที่ทางบริษัทออกรายงานว่า ได้ทำการลงทุนโดยการใช้ Options Derivatives เข้ามาช่วยเพิ่มผลตอบแทนมากขึ้น #แต่นักลงทุนกลับกลัวและคิดว่าบริษัทกำลังอาจเล่นพนันมากเกินไป โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดกำลังผันผวนหนักนี้ 

จริงๆแล้วบริษัท SoftBank Group นั้น เดิมเป็นบริษัทด้านโทรคมนาคมและการสื่อสารของญี่ปุ่น เป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น แต่ด้วย Vision อันกว้างไกลของ Masayoshi Son ซีอีโอของ SoftBank ผู้ที่ไม่เคยกลัวที่จะลงทุนในธุรกิจที่ไม่เกี่ยวกับธุรกิจหลัก ทำให้ Softbank ได้ทำการลงทุนในธุรกิจ Start up ใหม่ๆต่างๆมามากมาย ไม่ว่าจะเป็น Uber, Alibaba ไปจนถึงการลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีสาย AI , Biotech, Fintech และ อื่นๆอีกมากมายด้วย แม้จะไม่ได้เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลักด้านโทรคมนาคมและการสื่อสารเลยก็ตาม

แต่ด้วยความเก่งกาจในการมองเทรนด์และแนวโน้มธุรกิจของ Masayoshi Son ทำให้นักลงทุนทุกคนนั้นให้ฉายาเขาว่า #พ่อมดนักลงทุนแห่งญี่ปุ่น และได้รับความยอมรับจากหลายๆฝ่ายจนเป็นที่พูดกันในหมู่นักลงทุนว่า ถ้า SoftBank เปลี่ยนไปลงทุนในธุรกิจอะไรก็ตาม ให้รีบลงทุนตาม Softbank ไปโดยทันที 

 #อย่างไรก็ตาม ... การขยายแนวทางการลงทุนล่าสุดของเขานั้นอาจจะน่ากลัวเกินไปสำหรับนักลงทุนธรรมดาจะรับได้ 

📌 SoftBank ทำการเดิมพันครั้งใหญ่ในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

Softbank นั้นได้ทำการลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีผ่าน Vision Fund กองทุนที่ทางบริษัทจัดตั้งขึ้นด้วยวงเงินกว่า 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐ โดยนับตั้งแต่เกิดไวรัสโควิดระบาดในปีนี้ ทางบริษัทเริ่มเห็นโอกาสในการลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้อย่างบริษัท Apple, Amazon, Google, Microsoft และ Tesla มากขึ้น จนถึงกับขั้นเริ่มไล่ซื้อ Call Options หรือ ซื้อสิทธิในการซื้อหุ้นในบริษัทเหล่านี้ โดยถ้าหุ้นกลุ่มนี้ราคาสูงขึ้นนั้นก็จะให้ผลตอบแทนที่ดีมาก เพราะทาง Softbank จะสามารถเข้าซื้อหุ้นได้ที่ราคาถูก หรือสามารถนพสัญญา Call Options เหล่านี้ขายออกไปได้ด้วยราคาที่แพงกว่า 

ถึงแม้ทาง Softbank จะไม่ได้รายงานการซื้อขายให้ผู้ถือหุ้นทราบเป็นรายวัน แต่มีข่าวว่าล่าสุดนี้ทางกองทุน Softbank กำลังมีกำไรจากการซื้อ Call Options เหล่านี้มากถึง 4 พันล้านเหรียญสหรัฐ ! 

#แต่อย่างไรก็ตาม ... หลังจากที่ทางดัชนีหุ้น Nasdaq และหุ้นหลักๆที่ทาง Softbank เดิมพันไว้ได้ปรับตัวลดลงมาอย่างหนักในช่วงปลายอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยส่วนใหญ่ราคาลดลงมาเกินกว่า -10% ทำให้นักลงทุนเริ่มกังวลแล้วว่าทาง Softbank อาจจะถือการขาดทุนไว้ในพอร์ตหรือป่าว จึงรีบเทขายหุ้น Softbank กันออกมาก่อนในต้นอาทิตย์นี้ 

📌 SoftBank คนเดียวขยับตลาดได้

ทำการเดิมพันครั้งใหญ่ในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

Financial Times, Wall Street Journal และ Zero Hedge รายงานว่า SoftBank ทำการเดิมพันครั้งใหญ่ในหุ้นเทคโนโลยีโดยใช้อนุพันธ์ของตราสารทุน FT ติดป้าย SoftBank ว่า "วาฬ Nasdaq" ซึ่ง "กระตุ้นการชุมนุมอย่างรุนแรงในหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่" แม้ว่าจะไม่ได้ระบุรายละเอียดของการซื้อขายใด ๆ FT รายงานในภายหลังว่า SoftBank กำลังทำกำไรจากการซื้อขายประมาณ 4 พันล้านดอลลาร์จากการเดิมพันของผู้ก่อตั้ง Masayoshi Son ในตราสารอนุพันธ์โดยอ้างถึงผู้ที่มีความรู้โดยตรงในเรื่องนี้

“ SoftBank กำลังขี่คลื่น Nasdaq เหมือนกองทุนรวม” Mitsushige Akino เจ้าหน้าที่บริหารระดับสูงของ Ichiyoshi Asset Management Co. กล่าว“ ตลาดกำลังลดลงและนักลงทุนมองไม่เห็นดังนั้นพวกเขาจึงขายหุ้น SoftBank”

SoftBank ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น

การธุร Mobile Application ทั้งหลาย และยังตั้งเป้าจะขยายกองทุนเพิ่มอีก 10 เท่าตัว




ชื่อของ Masayoshi Son อาจไม่ได้เป็นที่รู้จักในกระแสวงกว้างเท่ากับชื่อของมหาเศรษฐีคนอื่นๆ แต่ถ้าพูดกันในวงการนักลงทุน แทบทุกคนน่าจะต้องรู้จัก ซีอีโอของ SoftBank คนนี้ พ่อมดนักลงทุนผู้ยิ่งใหญ่แห่งญี่ปุ่นและผู้ไม่เคยกลัวการลงทุนนอกธุรกิจหลัก (Core Business) ถึงขั้นกับมีการพูดกันในกลุ่มนักลงทุนว่า ถ้า SoftBank ขยับตัวไปลงทุนอะไร ก็ให้ลงทุนตาม

ล่าสุด SoftBank เพิ่งไปลงทุนใน Uber สตาร์ทอัพยูนิคอร์น(ที่เคยเป็น)เบอร์ 1 ของโลก ด้วยการเข้าซื้อหุ้นกว่า 17.5% การลงทุนในธุรกิจนอกสายของ Son ที่น่าจับตามองยังมีที่น่าสนใจ อย่างเช่น การจับมือกับอีคอมเมิร์ซรายใหญ่อย่าง Alibaba และ Aldebaran บริษัทสัญชาติฝรั่งเศสที่เน้นพัฒนาด้านหุ่นยนต์ หรืออย่างการเข้าลงทุนด้าน Mobile Payment ในอินเดียผ่านการลงทุนใน Paytm กว่า 1.4 พันล้านดอลลาร์
หรือเครื่องมือ


ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดใน 🇮🇳 #อินเดีย พุ่งขึ้นแซง 🇧🇷 บราซิล กลายเป็นประเทศที่เกิดการระบาดสูงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกและเป็นประเทศที่ #น่าเป็นห่วงที่สุดในโลก ในเวลานี้ ส่วนด้านความเสียหายทางเศรษฐกิจนั้นอาจสูงกว่าที่คาดไว้มาก


🌎 ในวันที่ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดพุ่งทะลุ 27 ล้านรายทั่วโลก ประเทศที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดในขณะนี้น่าจะเป็นประเทศอินเดีย...


เมื่อวานนี้อินเดียเจอผู้ติดเชื้อโควิดภายในวันเดียวเฉียดแสน (90,632 ราย) และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีกกว่า 1,000 ราย ส่งผลให้ยอดติดเชื้อสะสมขึ้นมาอยู่ที่ 4.2 ล้านราย พุ่งแซงอันดับ 2 อย่างบราซิลที่ 4.14 ล้านรายไปแล้วเช้านี้ ในขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตของอินเดียที่ 7 หมื่นรายนั้น เป็นอันดับที่ 3 ของโลก


อัตราการติดเชื้อที่เกือบแสนรายต่อวันนั้นเป็นอัตราที่สูงที่สุดในโลก แม้แต่ทางสหรัฐก็ยังไม่เคยตรวจพบผู้ติดเชื้อใหม่ต่อวันสูงขนาดนี้ ทำให้แนวโน้มในอีกไม่นานนี้อินเดียอาจกลายเป็นประเทศที่น่าเป็นห่วงที่สุดในโลก และมีผู้ติดเชื้อมากที่สุด


ข้อมูลจากสภาวิจัยทางการแพทย์แห่งอินเดีย (ICMR) ระบุว่า นับจนถึงวันนี้ทางอินเดียได้ตรวจหาเชื้อโควิดให้กับประชาชนทั่วประเทศไปแล้วกว่า 49 ล้านคน แต่ด้วยจำนวนประชากรทั้งหมด 1.3 พันล้านคน... อาจจะเป็นการยากที่จะควบคุมการระบาดครั้งนี้


📌 การ Lock Down ครั้งใหญ่ที่สุดในโลก


ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมีนาคมรัฐบาลของนายกรัฐมนตรี Narendra Modi ได้เริ่มทำการปิด Lock Down กันไวรัสครั้งใหญ่ที่สุดในโลก ในประเทศที่มีประชากรสูงถึง 1.3 พันล้านคน และได้ยอมลงทุนรับความเสียหายทางเศรษฐกิจอันใหญ่หลวง


โดยในช่วงไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมา GDP อินเดียได้หดตัวลงถึง -23.9% และนักวิเคราะห์มองว่าตัวเลขและผลกระทบทางเศรษฐกิจของอินเดียนั้น #จะยังมีสูงกว่าที่เคยเห็นในช่วงที่ผ่านมาแน่ๆ


โดยเมื่อวานนี้ทางเมืองหลวงนิวเดลีเพิ่งเริ่มพยายามเปิดระบบรถไฟใต้ดินให้บริการอีกครั้ง แต่ต้องจับตาดูว่าด้วยอัตราการติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้นขนาดนี้ #ทางรัฐบาลจะยอมเปิดระบบต่อไปได้นานแค่ไหน


ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนในประเทศอินเดียครับ 🙏


✅ ท่านใดไม่อยากพลาดข่าวสารในตลาด แนะนำให้กดตั้งค่า “#รายการโปรด” หรือ "#Favourites" ที่เมนูมุมขวาบนของเพจใน Facebook ตรงปุ่ม [...] และกด #เปิดกระดิ่ง ไว้ได้เลยครับ จะได้ไม่พลาดทุกข่าวสารของทางเพจเรา


หรือกด Like โพสต์ของเราบ่อยๆ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ที่อัพเดทใหม่ๆที่แบบทันตลาดครับ


🙏 ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกด Like และ Share ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์ ขอบคุณมากๆครับ 😊


#ทันโลกกับTraderKP